คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่ตามฟ้องได้ความว่าจำเลยปลอมลายมือชื่อของ ก. ลงในแบบฟอร์มแล้วรับเอาสมุดรายงานประจำตัวนักศึกษาแพทย์และคู่มือสำหรับนักศึกษาแพทย์ปีที่ 4 ที่ ก. มีสิทธิจะรับไป เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนามุ่งประสงค์จะเอาสมุดรายงานประจำตัวและคู่มือนักศึกษาแพทย์ปีที่ 4 ของโรงพยาบาลศิริราชไปเป็นข้อสำคัญ การลงลายมือชื่อของจำเลยเป็นเพียงการใช้กลอุบายแสดงตัวว่าจำเลยเป็น ก. เพื่อเป็นหลักฐานในการเอาทรัพย์ไปเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันกล่าวคือจำเลยได้ปลอมลายมือชื่อของนายกรกฎ ศิริมัย นักศึกษาแพทย์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชมหาวิทยาลัยมหิดล ลงในแบบฟอร์มคะแนนปฏิบัติงานนักศึกษาแพทย์ปีที่ ๔ ภาคที่ ๑ อันเป็นเอกสารราชการซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชมหาวิทยาลัย ในช่องผู้รับสมุดรายงานประจำตัวนักศึกษาแพทย์ และคู่มือสำหรับนักศึกษาแพทย์ปีที่ ๔ เพื่อให้นางระเบียบ วิเศษสินธุ์ เจ้าหน้าที่จ่ายสมุดรายงานและคู่มือดังกล่าวหลงเชื่อว่าเป็นนายกรกฎ ศิริมัย โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายกรกฎ ศิริมัย นางระเบียบ วิเศษสินธุ์ และผู้อื่นหรือประชาชน แล้วจำเลยได้เข้าไปในโรงพยาบาลศิริราชอันเป็นสถานที่ราชการ และลักเอาทรัพย์สมุดรายงานและคู่มือดังกล่าวจำนวน ๒ เล่ม ราคา ๕๐ บาทของคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของนางระเบียบ วิเศษสินธุ์ และเก็บไว้ในโรงพยาบาลศิริราชไปโดยทุจริต และโดยจำเลยใช้กลอุบายแสดงตัวว่าจำเลยเป็นนักศึกษาแพทย์ชื่อนายกรกฎ ศิริมัย เหตุทั้งหมดเกิดที่แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๓๓๕ (๘) และ ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๒๕ มาตรา ๑๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ คืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๓๓๕ (๘) และ ๙๑ (น่าจะเป็นมาตรา ๙๐) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๑๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๘) ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก ๒ ปี จำเลยรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ ปี คืนของกลางแก่เจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายดังกล่าว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้จำเลยให้การรับสารภาพแต่ตามฟ้องของโจทก์ได้ความว่าจำเลยปลอมลายมือชื่อของนายกรกฏ ศิริมัย ลงในแบบฟอร์มแล้วรับเอาสมุดรายงานประจำตัวนักศึกษาแพทย์และคู่มือสำหรับนักศึกษาแพทย์ปีที่ ๔ ที่ นายกรกฏ ศิริมัย มีสิทธิจะรับไป เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนามุ่งประสงค์จะเอาสมุดรายงานประจำตัวและคู่สำหรับนักศึกษาแพทย์ปีที่ ๔ ของโรงพยาบาลศิริราชไปเป็นข้อสำคัญการลงลายมือชื่อของจำเลยเป็นเพียงการใช้กลอุบายแสดงตัวว่าจำเลยเป็นนายกรกฏ ศิริมัย เพื่อเป็นหลักฐานในการเอาทรัพย์ไปเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ หาใช่หลายกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ไม่
พิพากษายืน

Share