แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำรับชั้นไต่สวน คำของผู้ทำผิดด้วยกันสองอย่างนี้ฟังประกอบลงโทษจำเลย
ย่อยาว
จำเลยต้องหาว่าเปนผู้ร้ายปล้นทรัพย์ แต่คดีสำหรับตัว ป.ย.ค. จำเลยนั้นโจทก์มี่ ต.พะยานผู้เดียงเบิกความยืนยันว่าจำเลยเหล่านี้เปนผู้ร้ายปล้นทรัพย์ แต่ ต.ผู้นี้นได้เปนผู้ร้ายไปปล้นทรัพย์ด้วยกับจำเลย แต่โจทก์ได้กันไว้เปนพะยาน นอกจากนี้ก็มีคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นไต่สวนเท่านั้น ครั้นมาถึงชั้นศาลจำเลยกลับให้การปฏิเสธว่าคำรับในชั้นไต่สวนใช้ไม่ได้ แต่จำเลยไม่มีพะยานมาสืบหักล้างดังนี้
ศาลเดิมตัดสินว่า พ.บ.จำเลยมีผิดตาม ม.๓๐๑ ให้จำคุกคนละ ๑๐ ปีส่วน ป.ย.ท.จำเลยให้ปล่อยตัวไป
ศาลฎีกาแลศาลอุทธรณ์เห็นว่า ต.เบิกความมีน้ำหนักน่าเชื่อแลจำเลยให้การรับในชั้นไต่สวนนนั้นก็โดยชื่นตา เมื่อเอาคำ ต.วินิจฉัยรวมกับคำรับของจำเลยชั้นไต่สวนแล้ว เชื่อว่า ป.ย.ท.จำเลยเปนผู้ร้ายรายนี้ด้วย จึงตัดสินแก้ศาลเดิมให้จำคุกจำเลยไว้ตามมาตรา ๓๐๑ มีกำหนดคนละ ๑๐ ปี แลลดโทษให้ตามมาตรา ๕๙ คงจำคุกจำเลยทั้ง ๔ ไว้คนละ ๗ ปี