แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใบอนุญาตให้เป็นทนายความของ จ. หมดอายุก่อนที่จำเลยแต่งตั้งให้ จ. เป็นทนายความ จ. จึงเป็นผู้ที่ขาดจากการเป็นทนายความ ไม่มีสิทธิแต่งฟ้องฎีกา หรือทำการเป็นทนายความว่าความในศาลให้แก่บุคคลอื่นตาม พ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 33 และมาตรา 44 (3) การที่ จ. ลงชื่อเป็นผู้ฎีกาและเรียงฎีกาให้แก่จำเลย จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา33, 80, 288 ริบอาวุธมีดของกลาง
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จำคุก 2 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ริบอาวุธมีดของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2554 จำเลยได้แต่งตั้งให้นายใจหนุ่ม เป็นทนายความ นายใจหนุ่มยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาครั้งที่ 1 ต่อศาลในวันเดียวกันแทนจำเลยและยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาให้จำเลยอีกสองครั้ง ต่อมาวันที่ 15 ธันวาคม 2554ได้เรียงคำฟ้องฎีกาและยื่นต่อศาลแทนจำเลย ปรากฏว่าใบอนุญาตให้เป็นทนายความของนายใจหนุ่มหมดอายุวันที่ 27 กันยายน 2554 นายใจหนุ่มจึงเป็นผู้ที่ขาดจากการเป็นทนายความ ไม่มีสิทธิแต่งฟ้องฎีกา หรือทำการเป็นทนายความว่าความในศาลให้แก่บุคคลอื่นตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 33 และมาตรา 44 (3) การที่นายใจหนุ่มลงชื่อเป็นผู้ฎีกาและเรียงฎีกาให้แก่จำเลย จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย