แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จ. กับพวกฝ่าย หนึ่ง ย.กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งต่าง ใช้ มีด ไม้ ครกแตก และกำลังกายทำร้ายร่างกายซึ่งกัน ย.ถึงแก่ความตายโดย จ. ใช้มีดซุยแทง ย. แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่า จ.ได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นดังที่กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์กล่าวชัดแล้วว่า จ.ใช้มีดซุยแทง ย. โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้าง ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 249 เป็นบทลงโทษด้วย ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษตามมาตรา 249 ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า นายชวน นายเชียน นายเจิมจำเลยฝ่ายหนึ่ง นายยันจำเลยกับนายโย หรือยิ่งฝ่ายหนึ่ง ต่างใช้มีด ไม้ครกแตกและกำลังกายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน นายชวน นายยันมีบาดเจ็บ นายโยหรือ ยิ่งถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ โดยนายยันจำเลยให้ครกขว้างนายชวนจำเลย นายเจิมจำเลยใช้มีดซุยแทงนายโยหรือยิ่ง โดยมีเจตนาจะฆ่าให้ตาย ขอให้ลงโทษ นายชวน, นายยันรับสารภาพว่าได้สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันมีบาดเจ็บจริง นายเจิมนายเชียนจำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายเจิมจำเลย ๑๖ ปี ตามมาตรา ๒๔๙ จำคุกนายยันจำเลย ๓ เดือนตามมาตรา ๒๕๔ นอกนั้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายเจิมจำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ถนัดว่า นายเจิมจำเลยได้แทงนายโยหรือยิ่งจริง แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่านายเจิมจำเลยได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นด้วยดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์ได้กล่าวไว้ชัดแล้วว่านายเจิมจำเลยได้ใช้มีดซุยแทงนายโยหรือยิ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้างกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ มาเป็นบทขอให้ลงโทษ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ก็แต่เพียงว่า นายเจิมจำเลยมิได้เข้าวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายด้วยเท่านั้น แต่จะว่าโจทก์มิได้ฟ้องหาว่า นายเจิมจำเลยได้ฆ่านายโยหรือยิ่งตายโดยเจตนาด้วยนั้นไม่ได้
พิพากษายืน.