คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยที่ 2 ขอพิจารณาใหม่ ศาลฎีกาพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิขอ ให้พิจารณาใหม่ กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 2 หามีสิทธิจะขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาโดยอ้างว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 หรือขอให้เพิกถอน การรับฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระหนี้ตามสัญญายืมและสัญญาจำนอง จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 40,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ14 ต่อปี นับแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2523 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จหากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วน ให้จำเลยที่ 2ชำระแทน หากไม่ชำระก็ให้ยึดทรัพย์สินจำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ หากไม่พอก็ให้ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบศาลชั้นต้นส่งคำบังคับให้จำเลยที่ 2 ทราบโดยวิธีปิดหมายต่อมาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์จำนอง จำเลยที่ 2ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคแรกยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 และศาลฎีกาพิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า การรับฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลเพิกถอนการรับฟ้องโจทก์ กระบวนพิจารณาและการบังคับคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่ได้เขียนแผนที่ยึดทรัพย์ตามความเป็นจริง ขายทรัพย์ต่ำกว่าความเป็นจริงโดยเจตนาให้จำเลยที่ 2เสียหาย มิได้ส่งคำบังคับให้จำเลยที่ 2 โดยชอบ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า ตามคำร้อง ของ จำเลยที่ 2เป็นการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ซึ่งเป็นการโต้แย้งคำพิพากษาศาลฎีกาอันถึงที่สุดแล้วว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิกถอนการพิจารณาผิดระเบียบ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาและคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยที่ 2 ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และเพิกถอนการรับฟ้องที่ไม่ชอบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีจำเลยที่ 2 ขอให้พิจารณาใหม่ ศาลฎีกาได้พิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่ คดีจึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นถึงที่สุดกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาโดยอ้างว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27หรือขอให้เพิกถอนการรับฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาและมีคำสั่งมานั้นชอบแล้วฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น ปัญหาอื่นไม่จำต้องวินิจฉัย”
พิพากษายืน

Share