แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เมื่อคดีอาญาอีกคดีหนึ่งของศาลจังหวัดชลบุรีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 หากศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้มีคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงโดยพิพากษาแก้หรือกลับผลของคำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรีแล้ว จำเลยยังคงต้องถูกบังคับตามโทษในคดีอาญาดังกล่าว ศาลชั้นต้นชอบที่จะนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีนั้นต่อไปจนกว่าผลของคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลนั้นจะเปลี่ยนแปลงไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2545 เวลากลางวันจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 930 เม็ด น้ำหนัก 91.270 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 26.328 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำเลยจำหน่ายโดยการขายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 30 เม็ด น้ำหนัก 2.960 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 0.736 กรัม อันเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อในราคา 3,000 บาท จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งพิพากษาลงโทษจำคุก 9 ปี 12เดือน ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91ริบเมทแอมเฟตามีนและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลาง คืนธนบัตรของกลางที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าของและนับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกมาตรา 15 วรรคสองด้วย), 66 วรรคหนึ่ง, 102การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 23 ปี ฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 11 ปี 6 เดือน ฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำคุก 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 13 ปี 12 เดือน นับโทษจำคุกจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี ริบเมทแอมเฟตามีนและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง (เดิม), 66 วรรคหนึ่ง (เดิม)และวรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้จำคุก 20 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 10 ปี รวมกับโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เป็นจำคุก 12 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยว่า ศาลชั้นต้นนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี ได้หรือไม่จำเลยฎีกาว่า คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังไม่ถึงที่สุด จึงนับโทษต่อจากคดีนี้ไม่ได้ เห็นว่า เมื่อคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2545 ของศาลจังหวัดชลบุรีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 หากศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้มีคำพิพากษาเปลี่ยนแปลง โดยพิพากษาแก้หรือกลับผลของคำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี แล้ว จำเลยยังคงต้องถูกบังคับตามโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี ดังนี้ศาลชั้นต้นชอบที่จะนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี ต่อไปจนกว่าผลของคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลนั้น ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป การที่ศาลชั้นต้นนับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4051/2544 ของศาลจังหวัดชลบุรี มานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน แต่ให้คืนธนบัตรของกลางที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าของ