แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่าอุทธรณ์ของโจทก์แม้จะอ้างว่าอุทธรณ์ข้อกฎหมาย แต่เป็นปัญหา ที่ไม่เป็นสาระ ทั้งยังเป็นการอุทธรณ์เพื่อให้ศาลฟังข้อเท็จจริงใหม่ จึงไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ทั้งสองเห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ในประเด็นที่ว่าประกาศฉบับที่ 18/2533 ของจำเลย ขัดต่อกฎหมายหรือไม่เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 35)
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยจ่าย เงินรางวัลประจำปีจำนวน 93,160 บาท และ 95,665 บาท แก่โจทก์ทั้งสอง พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายตั้งแต่ วันที่จำเลยผิดนัดจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์(อันดับ 31)
ทนายโจทก์ทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว (อันดับ 33)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าประกาศฉบับที่ 18/2533 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2533ของจำเลยเรื่องการจ่ายเงินรางวัล ประจำปี 2533 ตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 2 ได้เกิด จากข้อเรียกร้องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา 19 และ 20แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2519 โจทก์จำเลยจึงมีสิทธิที่จะตกลงเรื่องการจ่ายเงิน รางวัลประจำปี 2533แตกต่างไปจากเดิมได้ โจทก์ได้รับ เงินรางวัลประจำปี พ.ศ. 2533 งวดที่ 1 ตามประกาศนั้น ไปแล้วโดยมิได้อิดเอื้อนหรือโต้แย้งประการใด ถือได้ว่า โจทก์จำเลยตกลงกันโดยปริยายเปลี่ยนแปลงการจ่ายเงินรางวัล ประจำปีให้เป็นไปตามประกาศฉบับที่ 18/2533 นั้นแล้ว ประกอบกับระเบียบ (เดิม) ของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 มิได้กำหนดว่าจะต้องจ่ายเงินรางวัลประจำปี ทั้งหมดให้ครบในปีนั้น ๆ อย่างชัดแจ้งตามฟ้อง จึงยังฟังไม่ได้ว่า ประกาศของจำเลยฉบับดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนสภาพข้อตกลงเกี่ยวกับ สภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่โจทก์ โจทก์ลาออกจากบริษัท จำเลยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2534ตามเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 จึงไม่มีสภาพเป็นพนักงานของจำเลยตามเงื่อนไขที่จะได้รับ เงินรางวัลประจำปีงวดที่ 2และงวดที่ 3 จำเลยจึง ไม่ต้องจ่ายเงินรางวัลประจำปี พ.ศ. 2533แก่โจทก์ ฉะนั้น ที่โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ว่า ประกาศฉบับที่ 18/2533ของจำเลยเป็นการเปลี่ยนสภาพข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพ การจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่โจทก์ทั้งสองและขัดต่อกฎหมาย เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงเป็นอุทธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย ต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ที่ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ ของโจทก์ทั้งสองมานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง