แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิที่ดิน 2 แปลง คือที่นาและที่สวนราคาแปลงละ 300 บาทและเรียกค่าเสียหาย 420 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่สวนเป็นของโจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 30 บาท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่นาก็เป็นของโจทก์ด้วย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีก 300 บาท ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทหมายอักษร ก.ข.เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ๔๒๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยให้การต่อสู้กรรมสิทธิในนาพิพาท ส่วนสวนพิพาทจำเลยถือว่าเป็นของบิดามารดา จึงเข้าตัดใบสาคูไม่เกิน ๓๐ ทาง ราคาไม่เกิน ๗.๕๐ บาท
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นาพิพาทนั้นพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังตามข้อกล่าวอ้าง ส่วนสวนพิพาทฟังได้ว่าเป็นของโจทก์ จำเลยตัดเอาไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ไม่ได้ พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายค่าจากให้โจทก์ ๓๐ บาท คำขออื่นให้ยก
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในส่วนข้าวที่จำเลยเก็บเกี่ยวอีก ๓๐๐ บาท นอกนั้นคงยืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ดินพิพาทราคาแปลงละ ๓๐๐ บาท รวม ๒ แปลง ๖๐๐ บาท ค่าเสียหายที่ขอมาก็เพียง ๔๒๐ บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
จึงให้ยกฎีกาจำเลยเสีย