แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คนร้ายซึ่งอยู่ที่พื้นดินใช้ปืนยิงสุนัข เพราะสุนัขเห่าจะกัดคนร้ายขณะคนร้ายอื่นกำลังค้นหาทรัพย์อยู่ ถือได้ว่าการปล้นได้กระทำโดยใช้ปืนยิง เพราะคนร้ายยิงสุนัขที่เห่าและจะกัดคนร้ายในขณะที่คนร้ายกำลังปล้นบ้านผู้เสียหาย เป็นการกระทำในการปล้นทรัพย์นั้นด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 5 คนร่วมกันปล้นทรัพย์ของสิบตำรวจตรีสมัครหรือนายสมัครและนางคุ้ม แก่นพวา สามีภรรยาโดยจำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนขู่จะยิง และใช้กำลังกายเตะ ตบ และจับเจ้าทรัพย์มัด ใช้อาวุธปืนยิงขู่ 2 นัด เพื่อให้เป็นความสะดวกในการปล้นทรัพย์ เพื่อยึดถือเอาทรัพย์นั้น และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83 กับให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดอาญาตามมาตรา 340 วรรคสี่ จำคุก 20 ปี ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1, 2
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 2
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทั้ง 3 เป็นคนร้าย คนร้ายไม่ได้ใช้ปืนยิงคนหรือยิงเพื่อขู่ดังที่โจทก์ฟ้อง คนร้ายยิงสุนัขไม่เกี่ยวกับการปล้นไม่ผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ คงผิดวรรคสอง พิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้งสามผิดตามมาตรา 340 วรรค 2 จำคุกคนละ 10 ปี นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 3 ตามมาตรา 340 วรรคสี่
จำเลยที่ 1, 2 ฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ 1, 2 เป็นคนร้ายรายนี้ ปัญหาว่าจำเลยทั้ง 3 ผิดมาตรา 340 วรรคสี่ หรือไม่ นั้น มาตรา 340 วรรคสี่บัญญัติว่า ถ้าการปล้นได้กระทำโดย ฯลฯ ใช้ปืนยิง ฯลฯ” จึงเห็นว่าแม้คนร้ายซึ่งอยู่ที่พื้นดินได้ใช้ปืนยิงสุนัข เพราะสุนัขเห่าจะกัดคนร้าย เมื่อขณะนั้นคนร้ายคนอื่นกำลังค้นหาทรัพย์อยู่ ก็ถือได้ว่าการปล้นนั้นได้กระทำโดยใช้ปืนยิงตามมาตรา 340 วรรคสี่ เพราะคนร้ายยิงสุนัขที่เห่าและจะกัดคนร้ายในขณะที่คนร้ายกำลังปล้นบ้านผู้เสียหายอยู่ เป็นการกระทำในการปล้นทรัพย์นั้นด้วยจำเลยทั้งสามจึงผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1, 2, 3 ผิดมาตรา 340 วรรคสี่ จำคุกคนละ 20 ปี นอกนั้นยืน