คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคำพยานบุคคลของโจทก์เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ และตามรูปเรื่องแห่งลักษณะคดีทั้งหมดพยาน หลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้อง ถือว่าเป็นเหตุในลักษณะ คดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นไปด้วยได้./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันชิงทรัพย์ของนายมูล และได้ฆ่านางสมคาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา
๒๕๐, ๓๐๐ ฯลฯ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองชิงทรัพย์และฆ่านางสมตาย เพื่อปกปิดการกระทำผิดและเพื่อเอาทรัพย์ ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยง ให้พ้นอาญาจึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๕๐.
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ทางพิจารณาไม่ปรากฎว่า นายชูจำเลยที่ ๑ ได้ลงมือฆ่านางสม นายชูจำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา ๓๐๐ ตอน ๓ ให้จำคุกนายชูจำเลย ๒๐ ปี นายจั๋นจำเลยคงพิพากษายืน.
โจทก์และนายชูจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและพิเคราะห์คำนายมูล นางจันทา พยานโจทก์แล้ว เห็นว่า เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ ตามรูปเรื่อง
แห่งลักษณะคดีนี้ทั้งหมดไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้องต้องยกฟ้องของโจทก์เสีย สำหรับนายจั๋นจำเลย แม้จะไม่ฎีกาขึ้นมา แต่เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลพิพากษาตลอดไปถึงได้ตาม ป.ม.วิ. อาญามาตรา ๒๑๓.
พร้อมกันพิพากษากลับให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยทั้งสองไป. ฯลฯ

Share