แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาของจำเลยกล่าวว่า จำเลยเกรงว่าฎีกาของจำเลยจะขาดอายุความ จึงรีบจัดทำฎีกามาชั้นหนึ่งก่อน รายละเอียดพิศดารจำเลยจะได้แถลงการณ์ด้วยลายลักษณ์อักษรตามมาภายหลัง นอกจากนี้แล้วไม่ปรากฏว่าฎีกาของจำเลยระบุข้อเท็จจริงประการใด ดังนี้ ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ระบุข้อเท็จจริงแม้แต่โดยย่อ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันมีอาวุธปืนติดตัวทำการปล้นรถยนต์ซึ่งอยู่ในการดูแลรักษาของนายทนงศักดิ์ แซ่ตั้ง กับนาฬิกาข้อมือ ๑ เรือน และเงิน ๗๕ บาท ของนายทนงศักดิ์ไปโดยทุจริต โดยจำเลยร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายทนงศักดิ์ โดยได้ร่วมกันไต่ตรองวางแผนไว้ก่อน และพาเอาทรัพย์ไป นายทนงศักดิ์ได้ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๒๘๘, ๒๘๙
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ถึงแก่ความตายในระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นจึงจำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ ๑ ออกจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคท้าย ให้วางโทษประหารชีวิต แต่คำรับชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละ ๑ ใน ๓ คงให้จำคุกจำเลยทั้งสองไว้ตลอดชีวิต
จำเลยที่ ๒-๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒-๓ ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจฎีกาของจำเลยแล้ว ฎีกาของจำเลยกล่าวว่า จำเลยเกรงว่าฎีกาของจำเลยจะขาดอายุความ จึงรีบจัดทำฎีกาย่อมาชั้นหนึ่งก่อน รายละเอียดพิสดารจำเลยจะได้แถลงการณ์ด้วยลายลักษณ์อักษรมา ในฎีกาของจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงอะไรขึ้นมาเลย ดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาที่มิได้ระบุข้อเท็จจริงแม้แต่โดยย่อ เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย