คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้น. และคำขอตามฟ้องส่วนหนึ่งขอให้สั่งคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนที่จำเลยได้จำหน่ายไปเสียก่อนแล้ว. เมื่อปรากฏว่าข้าวจำนวนนี้จำเลยได้จำหน่ายไปแล้ว. ก็ไม่มีข้าวที่ศาลจะสั่งริบได้. และจึงไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไปว่าจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนนี้แก่แผ่นดินตามคำขอของโจทก์ได้หรือไม่ด้วย.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2511).

ย่อยาว

คดีได้ความตามฟ้องและจำเลยรับสารภาพว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบการค้าข้าวในเขตจังหวัดนราธิวาสอันเป็นเขตควบคุมการค้าข้าว และได้ทราบประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการและพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ซึ่งให้ผู้ประกอบการค้าข้าวแจ้งปริมาณสถานที่เก็บข้าว และทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้นแล้ว ได้ละเว้นไม่ทำรายรายงานการค้าข้าวประจำวันตามประกาศดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 20ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายน 2508 ซึ่งระหว่างเวลาดังกล่าว จำเลยได้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวรวมเป็นปริมาณข้าวจ้าวข้าวเหนียวจำนวน 27,400 กิโลกรัม ซึ่งจำเลยมีหน้าที่จะต้องนำปริมาณข้าวแต่ละวันซึ่งรวมเป็นจำนวนดังกล่าวมาลงในรายงานการค้าข้าวประจำวันในช่องข้าวที่รับมาจากผู้อื่น และในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ จำเลยได้จำหน่ายข้าวแก่ผู้อื่นไปรวมจำนวน11,700 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่จำเลยมีหน้าที่ต้องลงในรายงานการท้าข้าวประจำวันในช่องข้าวที่จำหน่ายแก่ผู้อื่น ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2508 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานตรวจพบปริมาณข้าวในครอบครองจำเลยจำนวนรวม 36,600 กิโลกรัม ซึ่งเป็นข้าวที่เหลือจากจำหน่าย ได้อายัดไว้เป็นของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวพ.ศ. 2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 17, 18 พระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 4, 5, 6, 10, 11, 12ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489ฉบับที่ 69 พ.ศ. 2499 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 จังหวัดนราธิวาส ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2507 ลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2507ให้จำคุกจำเลย 1 ปี ปรับ 1,200 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ600 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี ตามมาตรา 56 คงปรับสถานเดียวบังคับค่าปรับตามมาตรา 29, 30 ของกลางให้ริบ และคืนหรือใช้ราคาข้าวสารจำนวน 11,700 กิโลกรัม ราคา 19,205 บาท แก่แผ่นดิน จำเลยอุทธรณ์ในข้อความผิด และในข้อพิพากษาให้ริบข้าวของกลาง และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวปริมาณที่ได้ขายไปแล้วแก่แผ่นดิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาในข้อที่ให้ริบข้าวของกลางและให้คืนหรือใช้ราคาข้าวแก่แผ่นดิน ศาลฎีกาเห็นว่า สำหรับข้าวของกลางจำนวน 36,600 กิโลกรัมที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ริบนั้น คงปรากฏตามฟ้องว่าเป็นข้าวที่จำเลยมีอยู่ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 เวลากลางวันไม่ปรากฏว่าเป็นข้าวที่ได้มาเมื่อใด ซึ่งถ้าข้าวจำนวนนี้เป็นข้าวที่เหลือจากที่จำเลยจำหน่ายไปในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508แล้ว โอกาสที่จำเลยจะทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้นตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ยังมีอยู่ และเวลากลางวันตามฟ้องที่เจ้าพนักงานไปตรวจพบก็ไม่ปรากฏว่าเป็นเวลาเท่าใดแน่ ฉะนั้น จึงยังไม่อาจถือว่าจำเลยได้ฝ่าฝืนประกาศและกฎหมายตามฟ้อง ทั้งจะฟังว่าเป็นข้าวที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรงก็ไม่ถนัด เพราะจำเลยอาจได้มาใหม่ในวันที่ 4 พฤศจิกายนพ.ศ. 2508 หลังจากที่ได้จำหน่ายข้าวที่มีอยู่ไปแล้ว ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นข้าวที่เหลือจากที่จำหน่ายไปแล้วเช่นกัน ส่วนข้าวจำนวน 11,700 กิโลกรัม ซึ่งจำเลยได้จำหน่ายไปแล้วและเป็นจำนวนที่จะต้องลงในรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จในวันรุ่งขึ้นในช่องข้าวที่จำหน่ายแก่ผู้อื่นนั้น ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เมื่อจำเลยได้จำหน่ายไปเสียก่อนแล้ว ในขณะนี้ไม่มีข้าวที่จะสั่งริบได้ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าศาลจะสั่งริบได้หรือไม่ และไม่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่า จะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวรายนี้แก่แผ่นดินตามคำขอของโจทก์ได้หรือไม่ด้วย พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบข้าวของกลางจำนวน 36,600 กิโลกรัมโดยให้คืนจำเลยไป และให้ยกคำขอที่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าว11,700 กิโลกรัม ราคา 19,205 บาทที่จำเลยจำหน่ายไปแล้วแก่แผ่นดินเสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์.

Share