คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่เจ้ามรดกแสดงเจตนาอุทิศที่ดินของเจ้ามรดกให้สร้างวัด และวัดได้ดำเนินการก่อสร้างสำเร็จตามเจตนาของเจ้ามรดกแล้ว ที่ดินย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดโดยสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม ป.พ.พ มาตรา 1299 วรรคหนึ่ง ทำให้การได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าวไม่บริบูรณ์ ไม่อาจใช้ต่อสู้หรือบังคับต่อบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นคู่สัญญาก็ตาม แต่การยกให้นี้มีผลใช้บังคับระหว่างคู่สัญญา รวมทั้งทายาทหรือผู้สืบสิทธิของคู่สัญญาในฐานะเป็นบุคคลสิทธิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ถือกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดที่ดินทั้งห้าแปลงตามฟ้องกึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งห้าแปลงดังกล่าวออกเป็นสองส่วนเท่ากัน หากไม่สามารถดำเนินการได้หรือโจทก์กับจำเลยที่ 1 ตกลงกันไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดนำเงินที่ได้มาแบ่งคนละกึ่งหนึ่งหรือให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ราคาตลาดของที่ดินดังกล่าวเป็นเงิน 575,000,000 บาท แก่โจทก์ โดยโจทก์และจำเลยที่ 1 ร่วมกันรับผิดชอบจ่ายค่าธรรมเนียม ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์รวมและจากการขายทอดตลาดคนละกึ่งหนึ่ง ขอให้มีคำสั่งว่าสัญญาการแบ่งทรัพย์มรดกของนางอนงค์ ข้อ 7 ตกเป็นโมฆะและให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ร่วมกันหรือแทนกันจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์และจำเลยที่ 1 ลงในที่ดินโฉนดเลขที่ 10583 ถึง 10585 และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์บ้านเลขที่ 19 และ 19/1 ซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวตามฟ้องให้แก่โจทก์และจำเลยที่ 1 จากนั้นจึงแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งสามแปลงและบ้านดังกล่าวออกเป็นสองส่วนเท่ากันหากไม่สามารถดำเนินการได้หรือโจทก์กับจำเลยที่ 1 ตกลงกันไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดนำเงินที่ได้มาแบ่งคนละกึ่งหนึ่ง หรือให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ราคาตลาดของที่ดินและบ้านดังกล่าวเป็นเงิน 46,100,000 บาท แก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ เนื่องจากผิดสัญญาการแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าว โดยไม่ไปจดทะเบียนกรรมสิทธิ์รวมในที่ดิน 5 แปลงตามฟ้องให้แก่โจทก์ และไม่ส่งมอบโฉนดที่ดินสำหรับที่ดินทั้งห้าแปลงดังกล่าว นับแต่วันที่ 8 กันยายน 2539 ซึ่งเป็นวันพ้นกำหนด 4 ปี นับแต่วันที่นายสวิงถึงแก่ความตาย ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 575,000,000 บาท ถึงวันฟ้อง เป็นเวลา 263 วัน วันละ 236,301.37 บาท เป็นเงินค่าเสียหาย 62,147,260.31 บาท ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 593,100,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสี่เพิกเฉยไม่ดำเนินการตามคำขอดังกล่าวให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงิน 701,347,260.31 บาท (ยอดเงินดังกล่าวน่าจะคำนวณตัวเลขผิดพลาด) และในกรณีที่จำเลยทั้งสี่ไม่ดำเนินการจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดเลขที่ดินและบ้าน หรือไม่ไปแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านตามฟ้องให้โจทก์กึ่งหนึ่ง ให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสี่
จำเลยที่ 1 ให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันดำเนินการจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกึ่งหนึ่งในที่ดินโฉนดเลขที่ 4848, 5926 ตำบลหนองค้างพลู (หลักสอง) อำเภอภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร และโฉนดเลขที่ 1532 ตำบลคลองประเวศน์บุรีรัมย์ อำเภอแสนแสบ จังหวัดมีนบุรี (กรุงเทพมหานคร) โดยให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดจากการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์รวมกึ่งหนึ่ง หากจำเลยทั้งสี่เพิกเฉยให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสี่ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ ให้ค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากนี้ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่เจ้ามรดกยกที่ดินโฉนดเลขที่ 1740 และโฉนดเลขที่ 57342 ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของวัดวงษ์ลาภารามแล้ว แม้การยกให้จะไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคหนึ่ง ทำให้การได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าวไม่สมบูรณ์ ไม่อาจใช้ต่อสู้หรือบังคับบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นคู่สัญญาก็ตาม แต่การยกให้นี้ยังคงใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา รวมทั้งทายาทหรือผู้สืบสิทธิของคู่สัญญาในฐานะเป็นบุคคลสิทธิได้ เมื่อโจทก์และจำเลยที่ 1 เป็นทายาทของนางอนงค์และนายสวิงจึงไม่มีสิทธิกล่าวอ้างเป็นอย่างอื่น ที่ดินดังกล่าวจึงมิใช่ทรัพย์มรดกที่จะนำมาแบ่งปันแก่ทายาทอีกต่อไป
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เกี่ยวกับที่ดินโฉนดเลขที่ 1740 และโฉนดเลขที่ 57342 โดยให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share