แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีวิวาศทำร้ายกันกันถึงตาย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมาฟ้องร้องขอให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งมิได้ เพราะไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายมาม.28 แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา
ย่อยาว
คดีเรื่องนี้ได้ความว่าพวกโจทก์และพวกของจำเลยได้วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันเป็นเหตุให้พวกข้อจำเลยผู้หนึ่งถึงแก่ความตาย โจทก์จำเลยและพรรคพวกทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัสบางไม่สาหัสบ้าง ในชั้นนั้นอัยยการได้เป็นโจทก์ฟ้องพวกของโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยศาลฎีกาได้พิพากษาเสร็จสิ้นไปแล้ว โจทก์จึงหวนกลับมาฟ้องจำเลยในคดีนี้อีกข้อให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามม.๒๘ แห่ง ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ผู้มีอำนาจฟ้องความอาญาได้ก็คือพนักงานอัยยการอละผู้เสียหายเท่านั้นหรื่องนี้เป็นเรื่องวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันแลกัน กรณีเช่นนี้ต้องอาศัยกรรมแต่ละฝ่ายรวมกันทำให้เกิดเป็นความผิดตามม.๒๕๓ ขึ้น ฉนั้นการที่โจทก์ถูกตีบาดเจ็บและนายหยุ่นฉางจำเลยถูกแทงจะกล่าวว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดแต่ฝ่ายผู้เดียวฝ่ายเดียวมิได้กฎหมายลงโทษทั้ง ๒ ฝ่ายโดยถือว่ากระทำผิดรวมกันความเสียหายของโจทก์เป็นผลเกิดจากความผิดของโจทก์เองโจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยและไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์