คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3768/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สัญญาค้ำประกันระบุเป็นใจความว่าผู้ค้ำประกันยอมรับรู้และยินยอมด้วยในกรณีที่ผู้ว่าจ้างยอมผ่อนเวลาให้ผู้รับจ้างโดยเพียงแต่ผู้ว่าจ้างแจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบโดยไม่ชัดช้าเท่านั้น แม้ผู้ว่าจ้างมิได้แจ้งเรื่องการผ่อนเวลาแก่ผู้ค้ำประกันผู้ค้ำประกันก็ไม่หลุดพ้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 700 เพราะการแจ้งมิใช่สาระสำคัญอันเป็นเงื่อนไขว่าหากมิได้ปฏิบัติตามจะทำให้การยอมผ่อนเวลาไม่เป็นผล

ย่อยาว

สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์สร้างตึกต่อมาโจทก์บอกเลิกสัญญาเพราะจำเลยผิดสัญญา ขอให้จำเลยชำระค่าจ้างค่าสัมภาระ และค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา
สำนวนที่ 2 จำเลยฟ้องโจทก์และผู้ค้ำประกันว่าโจทก์ผิดสัญญาจ้างทำของขอให้ใช้ค่าเสียหายและค่าปรับ
โจทก์ให้การว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา
ผู้ค้ำประกันให้การว่า จำเลยต่ออายุสัญญาให้โจทก์โดยผู้ค้ำประกันไม่ยินยอม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงิน3,683,346 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่จำเลย ให้ผู้ค้ำประกันร่วมรับผิดกับโจทก์จำนวน 1,122,687.80 บาท พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์และผู้ค้ำประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และผู้ค้ำประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “หนังสือสัญญาค้ำประกันที่ธนาคารทำไว้ต่อกรมควบคุมโรคติดต่อ ข้อ 2. ระบุว่า “ข้าพเจ้ายอมรับรู้และยินยอมด้วยในกรณีที กรมควบคุมโรคติดต่อได้ยินยอมให้ผัดหรือผ่อนเวลา หรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่บริษัทจันทนิมิตก่อสร้าง จำกัด โดยเพียงแต่กรมควบคุมโรคติดต่อแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบโดยไม่ชักช้าเท่านั้น” เช่นนี้ จึงเป็นการที่ธนาคารยินยอมด้วยล่วงหน้าในการที่หากจะมีการผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่บริษัทก่อสร้าง ฉะนั้นจึงถือว่าการที่กรมควบคุมโรคติดต่อให้ผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่บริษัทก่อสร้างได้รับความยินยอมจากธนาคารผู้ค้ำประกันแล้ว จึงไม่เข้าข่ายที่ธนาคารจะหลุดพันความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 แม้จะมีข้อความตอนท้ายของสัญญาข้อ 2. ระบุว่า “โดยเพียงแต่กรมควบคุมโรคติดต่อแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบโดยไม่ชัดช้าเท่านั้น” และปรากฏว่ากรมควบคุมโรคติดต่อมิได้แจ้งให้ธนาคารทราบถึงการผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องนี้ก็ตามข้อความตอนท้ายดังกล่าวแล้วมิใช่สาระสำคัญอันเป็นเงื่อนไขว่าหากมิได้ปฏิบัติตามแล้วจะทำให้ข้อความตอนต้นไม่เป็นผล เพราะข้อความตอนต้นของสัญญาข้อ 2. นี้ เป็นการแสดงเจตนาของธนาคารที่มีผลเป็นการยินยอมด้วยในการผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาไปแล้วมิใช่ข้อสัญญาว่าจะปฏิบัติการชำระหนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง หากเป็นเพียงคำขอร้องหรือเสนอแนะเท่านั้น ธนาคารจึงไม่หลุดพันความรับผิด”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 4,700,654 บาทพร้อมกับดอกเบี้ยแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share