คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1374/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าอาวาศจีนทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้มีชื่อเป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้างบริษัทโจทก์สร้างศาลาในวัดนั้น ด้วยเงินที่เจ้าอาวาศเรี่ยไรมาได้ ซึ่งฝ่ายบริษัทโจทก์ก็รู้อยู่ว่าเป็นการสร้างด้วยเงินเรี่ยไร และการจัดสร้างนี้เจ้าอาวาศก็มิได้รายงานขออนุญาตจากกรมการศาสนาและการก่อสร้างรายนี้ก็ไม่เข้าอยู่ในมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งให้เจ้าอาวาศปฏิบัติแทนวัดได้ นั้น ต้องถือว่าวัดไม่ต้องรับผิดชอบตามสัญญาจ้างที่กล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า วัดจำเลยได้ตกลงจ้างเหมาบริษัทโจทก์ ให้ก่อสร้างศาลากงเต็กในวัดจำเลยเป็นเงินค่าจ้างเหมา ๑๖๒,๕๐๐ บาท ต่อมาได้มีการก่อสร้างพิเศษตามที่ตกลงกันอีก รวมทั้งหมดเป็นเงิน ๑๙๑,๒๐๙ บาท ได้ชำระค่าจ้างกันบ้างแล้ว ยังค้างอยู่อีก ๘๑๒๐๙ บาท จำเลยไม่ชำระจึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า พระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร ได้จ้างเป็นส่วนตัว วัดไม่ต้องรับผิดชอบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินที่ค้างตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาศวัดมังกรกมลาวาศ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจแต่งตั้งให้เป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้างสร้างศาลารายนี้ กับบริษัทโจทก์ด้วยเงินที่ทางเจ้าอาวาศเรี่ยไรมาได้ ฝ่ายบริษัทโจทก์ก็ได้เข้าทำสัญญารับเหมาก่อสร้างศาลารายนี้โดยอรู้อยู่ว่าเป็นการสร้างด้วยเงินเรี่ยไร และการที่เจ้าอาวาศจัดการสร้างศาลานี้ ก็มิได้รายงานขออนุญาตจากกรมศาสนาด้วยและการก่อสร้างรายนี้ไม่เข้าอยู่ในมาตรา ๔๓ แห่ง พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ซึ่งให้เจ้าอาวาศปฏิบัติแทนวัดได้ ฉะนั้นจำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง แต่เห็นว่าโจทก์เข้าทำการก่อสร้างศาลารายนี้โดยสุจริต
พิพากษายืนไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะจัดการเรียกร้องในทางอื่นต่อไป

Share