แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารสัญญากู้มี น. และ ล. ลงชื่อเป็นพยานอยู่ด้วย ซึ่ง น. เป็นผู้รู้เห็นในขณะที่ทำการกู้ยืมเงินกัน อันแสดงว่า ขณะที่ น.รับรองลายพิมพ์นิ้วมือของ พ.ซึ่งเป็นผู้กู้ พ.หาได้โต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นมิใช่เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของ พ.แต่ประการใดไม่ ฉะนั้นแม้ น.จะไม่เห็นตอนที่ พ.ผู้กู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือ ก็ถือได้ว่ามีพยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้สองคนแล้ว แม้ ผ.จะมาลงชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ภายหลังอีก ก็หาทำให้สัญญากู้รายนี้เสียไปไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางพร้อมกู้เงินโจทก์ไป ๑๐,๐๐๐ บาท ไม่เคยชำระต้นเงินและดอกเบี้ย ต่อมานางพร้อมตาย จำเลยเป็นผู้รับมรดก ขอบังคับให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน ๑๖,๐๖๒.๕๐ บาท
จำเลยให้การว่า นางพร้อมทำสัญญากู้เงินโจทก์จริง แต่เป็นการสมยอมกันทำขึ้นเพื่อก่อหนี้ให้แก่ตัวนางพร้อมเพื่อให้ผูกพันสินบริคณห์ของนางพร้อมกับสามีซึ่งกำลังจะฟ้องหย่าขาดและแบ่งทรัพย์กัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า นางพร้อมกู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า สัญญากู้รายนี้ไม่สมบูรณ์ เพราะนายผัน ศรีนาค พยานในเอกสารสัญญากู้มาลงชื่อในภายหลังนั้นได้ความว่าเอกสารสัญญากู้รายนี้ยังมีนายน้องและนายเลิศลงชื่อเป็นพยานอยู่ด้วย ซึ่งนายน้องผู้นี้ก็เป็นผู้รู้เห็นในขณะที่เขากำลังทำการกู้ยืมเงินกันนั้น อันแสดงว่าขณะที่นายน้องรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนางพร้อมนั้น นางพร้อมหาได้โต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นว่าลายพิมพ์นิ้วมือนั้นมิใช่เป็นลายพิมพ์นิ้วมือนางพร้อมแต่ประการใดไม่ ฉะนั้น แม้นายน้องจะไม่เห็นตอนที่นางพร้อมผู้กู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือ ก็ถือได้ว่ามีพยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้สองคนแล้ว แม้นายผันจะมาลงชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ภายหลัง ก็หาทำให้สัญญากู้รายนี้เสียไปไม่
พิพากษายืน.