คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ โดยบรรยายฟ้องเกี่ยวกับประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พุทธศักราช 2484ว่า ทางราชการได้คัดสำเนาประกาศดังกล่าวประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ทำการกำนัน และที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องและในท้องที่เกิดเหตุคดีนี้ให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว ดังนี้ คำว่าให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว หมายความว่าจำเลยทั้งสี่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วเป็นคำฟ้องที่ยืนยันแน่ชัดว่าจำเลยทั้งสี่ทราบประกาศเรื่องนี้แล้วฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ความผิดข้อหาทำไม้กับแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นแม้ไม้ที่จำเลยร่วมกันแปรรูปและที่จำเลยร่วมกันทำไม้จะเป็นไม้จำนวนเดียวกันหรือไม่ก็ตามก็เป็นความผิดคนละกรรมต่างกัน การที่โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตโดยมิได้ระบุให้แน่ชัดว่า ไม้ที่จำเลยร่วมกันแปรรูปเป็นไม้จำนวนเดียวกันกับไม้ที่จำเลยร่วมกันทำไม้โดยมิได้รับอนุญาตหรือไม่จึงไม่ทำให้เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ในข้อหาร่วมกันทำไม้ แปรรูปไม้มีไม้ที่ยังไม่ได้แปรรูป และไม้แปรรู้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้
จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสี่มีความผิดตามฟ้องให้เรียงกระทงลงโทษฐานร่วมกันทำไม้หวงห้าม จำคุกคนละ 2 ปี ฐานร่วมกันแปรรูปไม้หวงห้ามจำคุกคนละ 2 ปี ฐานร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองจำคุกคนละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 8 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 4 ปี คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่เจ้าของ ของกลางนอกนั้นให้ริบ จ่ายสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับตามกฏหมาย
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่จ่ายสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งความนำจับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ ซึ่งจำเลยทั้งสี่อ้างว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะเหตุ 2 ข้อ คือ ข้อแรกอ้างว่า คำฟ้องไม่ได้ระบุยืนยันแน่ชัดว่า ประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตราพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ที่ทางราชการได้คัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ต่าง ๆ นั้น จำเลยทราบประกาศนี้หรือไม่เห็นว่าคำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับประกาศที่จำเลยทั้งสี่ฎีกาโจทก์ได้บรรยายว่าทางราชการได้คัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการกำนันและที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องและในท้องที่เกิดเหตุคดีนี้ให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว คำว่าให้ทราบโดยทั่วกันแล้วหมายความว่าจำเลยทั้งสี่ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว เป็นคำฟ้องที่ยืนยันแน่ชัดว่าจำเลยทั้งสี่ได้ทราบประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ดังกล่าวแล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมและที่จำเลยทั้งสี่อ้างว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมอีกข้อหนึ่งคือฟ้องข้อ 2 ข. โดยอ้างว่าโจทก์ไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ คือโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่บังอาจร่วมกันแปรรูปไม้กาลอและไม้ตะเคียนชันตาแมวซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. และ ข.โดยเลื่อยออกเป็นแผ่นและเหลี่ยมรวมจำนวน 198 ชิ้น ปริมาตร 5.25ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้ระบุให้แน่ชัดว่าไม้ตะเคียนชันตาแมวในฟ้องข้อ 2 ข. นั้นเป็นจำนวนเดียวกับในฟ้องข้อ 2 ก. ที่โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมกันตัดไม้สยาขาวและไม้ตะเคียนชันตาแมวซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. และ ข. โดยร่วมกันตัดฟันออกจากต้นแล้วเลื่อยตัดทอนเป็นท่อน ๆ รวมจำนวน 4 ท่อน ปริมาตร 10.06 ลูกบาศก์เมตร หรือไม่ยังเคลือบคลุมไม่แน่ชัด และจำนวนปริมาตรของไม้ย่อมเป็นสาระสำคัญในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้นั้น เห็นว่า คำฟ้องดังกล่าวโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงถึงการกระทำของจำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันแปรรูปไม้โดยวิธีเลื่อยออกเป็นแผ่นและเหลี่ยม ทั้งได้ระบุถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องคือระบุว่า ไม้ที่จำเลยร่วมกันแปรรูปเป็นไม้กาลอและไม้ตะเคียนชันตาแมวอันเป็นการพอสมควรที่จำเลยทั้งสี่จะเข้าใจข้อหาได้แล้ว และการกระทำความผิดตามข้อ 2 ข. นี้ก็มิได้เกี่ยวพันกับการกระทำความผิดในข้อ 2 ก. แต่อย่างใด เป็นการกระทำความผิดคนละกรรมต่างกัน ไม้ที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันแปรรูปในฟ้องข้อ 2 ข. ซึ่งมีปริมาตรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดจะเป็นไม้จำนวนเดียวกับที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันทำไม้ในฟ้องข้อ 2 ก. หรือไม่ก็ได้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมแต่ประการใด…”
พิพากษายืน.

Share