คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สำหรับที่ดินมือเปล่าที่มีสภาพเป็นที่บ้านที่สวนนั้น จำเลยจะยกการครอบครองปรปักษ์มาต่อสู้ได้ ก็ต่อเมื่อได้ครอบครองถึง 10 ปีแล้ว ถ้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์
ทำหนังสือว่ายกที่ดินให้จำเลย แต่มีความต่อไปว่าจำเลยให้เงินตอบแทน 800 บาท ดังนี้เป็นการซื้อขายไม่ใช่พินัยกรรม์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อประมาณ ๗ ปีมาแล้ว บิดาโจทก์กู้เงินจำเลยไป ๗๐๐ บาท มอบที่นาที่สวนให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย บัดนี้บิดาโจทก์ตายโจทก์ขอไถ่จำเลยไม่ยอม
จำเลยต่อสู้ว่าบิดาโจทก์ขายที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย ๆ ครอบครองมา ๗ ปีแล้ว
ข้อเท็จจริงได้ความว่าบิดาโจทก์ขายที่พิพาทให้แก่จำเลย การซื้อขายทำหนังสือกันที่บ้านกำนัน หาได้จดทะเบียนซื้อขายต่ออำเภอไม่ จำเลยครอบครองที่พิพาทมาได้ ๗ ปีเศษ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การซื้อขายใช้บังคับไม่ได้ แต่สำหรับที่นาบิดาโจทก์ได้มอบการครอบครองให้แก่จำเลยเป็นสิทธิขาดแล้ว จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยโดยการปกครอง โจทก์เรียกคืนไม่ได้
แต่ส่วนที่สวนพิพาท แม้จะเป็นที่มือเปล่าเหมือนกันแต่มีสภาพเป็นที่บ้านที่สวน จำเลยจะต้องครอบครองปรปักษ์ถึง ๑๐ ปี แต่จำเลยครอบครองได้เพียง ๗ ปี เศษเท่านั้นโจทก์จึงเรียกคืนได้ พิพากษาให้คืนฉะเพาะที่สวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สำหรับที่ดินมือเปล่าที่มีสภาพเป็นที่บ้านที่สวนนั้น จำเลยจะยกการครอบครองปรปักษ์มาต่อสู้ได้ก็ต่อเมื่อได้ครอบครองถือ ๑๐ ปี แต่เรื่องนี้จำเลยครอบครองมาเพียง ๗ ปี จึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ พิพากษายื่น

Share