คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่เจ้าหนี้กับลูกหนี้ตกลงกันให้ลูกหนี้ชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก ไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ โดยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ กรณีต้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 374
หากคดียังมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปอีกแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเสียศาลสูงย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้เงิน ส.ๆไป ๘๕๐ บาท และในวันทำหนังสือสัญญากู้เงินนั้นเอง จำเลยกับ ส.ได้ตกลงกันทำความยินยอมเป็นหนังสือ ต่างได้ลงลายมือชื่อไว้ด้วยกันว่า ให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์
โดย ส.ยอมยกเงิน ๕๕๐ บาทแก่ผู้เยาว์ ๒ คน ซึ่งเป็นบุตรโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ และในสัญญาให้สิทธิโจทก์เรียกร้องเงินรายนี้ พ้นกำหนดชำระแล้วได้เตือนจำเลยไม่ชำระ จำเลยต่อสู้หลายประการ วันนัดชี้สองสถาน ศาลสอบโจทก์ ๆ แถลงว่า เรื่องที่โจทก์ว่า ส.ยอมยกเงินให้ผู้เยาว์บุตรโจทก์นั้น ไม่ได้ทำสัญญายกเงินให้เป็นหนังสือระหว่าง ส.กับผู้รับ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน พิพากษาว่า เป็นเรื่องแปลงหนี้ใหม่ เมื่อ ส.ไม่ได้ทำหนังสือยกเงินนี้ให้บุตรโจทก์ การแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ไม่สมบูรณ์ และยังเห็นได้ว่าโจทก์จะฟ้องในนามของโจทก์เองไม่ได้ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องแปลงหนี้ใหม่ แต่เป็นเรื่องลูกหนี้เจ้าหนี้ตกลงกันจะชำระหนี้รายนี้ ให้บุคคลนอกคือโจทก์ โดยยกเงินนั้นให้บุตรโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๓๗๔ โจทก์มีสิทธิฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ได้แต่จำเลยยังให้การต่อสู้อยู่ ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่า ตามฟ้องเป็นเรื่องเจ้าหนี้และลูกหนี้ คือ ส. กับจำเลยตกลงกันให้จำเลยชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก คือ โจทก์ ส.ยอมยกเงินจำนวนนั้นให้บุตรโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลงหนี้ใหม่ ด้วยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ ส่วนข้อที่ว่าเงินรายนี้ ส.ยกให้ผู้เยาว์บุตรโจทก์ ๆ จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่นั้น ปรากฏตามฟ้องว่าคู่กรณีตกลงกันให้จำเลยชำระแก่โจกท์และให้สิทธิแก่โจทก์เรียกร้องเงินนี้ ทั้งโจทก์ได้เตือนจำเลยแล้ว ชั้นนี้จะยกเหตุว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขึ้นยกฟ้อง ยังไม่ได้ คีดมีประเด็นจะต้องพิจารณาต่อไป แต่ศาลช้นต้นงดสืบพยานเสีย เห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
พิพากษายืน

Share