แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายถือขวานใหญ่บุกรุกเข้าไปจะทำร้ายจำเลยถึงในบ้าน จำเลยจึงฟันผู้ตายถูกไหล่ซ้ายขวานตกจากมือ ผู้ตายก้มลงหยิบขวานและร้องเรียกให้พรรคพวกมาช่วยจำเลยจึงฟันซ้ำอีกหลายที เพราะเป็นขณะที่จำเลยกำลังตกอยู่ในระหว่างภยันตรายที่ใกล้จะถึงและร้ายแรงซึ่งได้เกิดขึ้นเฉพาะหน้า การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดพร้าฟันทำร้ายร่างกายนายเนื่อง พรมจันทรเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายสาหัสถึงตายโดยเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การว่า ใช้พร้าฟันนายเนื่องตายเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการเกินสมควรแก่เหตุมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๘,๖๙ จึงพิพากษาจำคุกจำเลย ๗ ปี ริบพร้าของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายถือขวานบุกรุกเข้าไปถึงในบ้านของจำเลยและเงื้อขวานใหญ่ทำท่าเงื้อจะฟันจำเลยในระยะที่อยู่ห่างกันเพียง ๓ ศอก โดยจำเลยกำลังทำการไสกบจะทำเรือน จำเลยจึงต้องฟันผู้ตายถูกไหล่ซ้ายขวานตกจากมือ แล้วผู้ตายยังก้มลงหยิบขวานพร้อมกันนั้น ผู้ตายก็เรียกให้พรรคพวกมาช่วย จำเลยจึงฟันซ้ำอีกหลายทีโดยความกลัว ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยจำต้องฟันซ้ำหลายทีนั้น ก็เพราะเป็นขณะที่จำเลยกำลังตกอยู่ในระหว่างภยันตรายที่ใกล้จะถึงและร้ายแรง ซึ่งได้เกิดขึ้นเฉพาะหน้า อันเป็นเวลากระทันหันกำลังพัวพันกันอยู่ ทั้งผู้ตายก็มีอาวุธขวานใหญ่ยาวศอกเศษ และยังได้ร้องเรียกให้พรรคพวกมาช่วยอีก การที่จำเลยฟันซ้ำหลายทีจึงมีเหตุผลสมควร เพราะถ้าไม่กระทำดังนั้น หากมีพรรคพวกของผู้ตายมาช่วยและเวลานั้นที่บ้านของจำเลยก็อยู่แต่จำเลยคนเดียว จำเลยอาจถูกผู้ตายและพวกกลุ้มรุมทำร้ายถึงตายก็ได้ พฤติการณ์ที่จำเลยนำสืบ ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน