คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยสมคบกับพวกปล้นทรัพย์ แล้วจับเจ้าทรัพย์มัดตัวให้เดินพาไปส่งระหว่างทางห่างจากที่เกิดเหตุราว 30 เมตร พวกจำเลยคนหนึ่งได้ยิงเจ้าทรัพย์ตาย ย่อมถือได้ว่าในการปล้นนั้นทำให้เขาถึงตายจำเลยจึงมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 ตอน 3

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกันปล้นทรัพย์ และจำเลยกับพวกได้สมคบกันใช้ปืนยิงนายจารย์ทัต ตายโดยเจตนาเพื่อสะดวกในการลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ร่วมทำการปล้นจริงแล้วพวกคนร้ายได้พาพวกเจ้าทรัพย์มัดตัวคุมไปส่งไประหว่างทางคนร้ายคนหนึ่งได้ยิงนายจารย์ทัตเจ้าทรัพย์คนหนึ่งตายเห็นว่าพวกคนร้าย 8 คน มีคนหนึ่งผลุนผลันยิงเจ้าทรัพย์ตายจะว่าจำเลยร่วมคิดในการยิงด้วยไม่ได้ พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1, 2 คนละ 15 ปี ข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาให้ยกเสีย และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3

โจทก์และจำเลยที่ 1, 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 1, 2 ไว้ตลอดชีวิตตามกฎหมายอาญา มาตรา 301 ตอน 3 นอกนั้นคงยืน

จำเลยที่ 1, 2 ฎีกา

ศาลฎีกา ฟังว่าจำเลยที่ 1, 2 ได้สมคบกับพวกปล้นทรัพย์จริงในระหว่างทางพวกจำเลยคนหนึ่งได้ยิงนายจารย์ทัตเจ้าทรัพย์คนหนึ่งตาย ห่างจากเรือนที่เกิดเหตุ 30 เมตร การกระทำเช่นนี้ถือได้ว่า ในการปล้นนั้นทำให้เขาถึงตายแล้ว จึงพิพากษายืน

Share