คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานขายยาสูบของกลางที่ยึดไว้ในระหว่างคดี คดีถึงที่สุดมีคำพิพากษาให้คืนของกลาง การคืนต้องคืนเงินราคาที่ขายได้รวมทั้งเงินช่วยราชการยาสูบที่ผู้ซื้อต้องเสียให้ในเวลาซื้อทอดตลาดด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เงินค่าขายทอดตลาดบุหรี่มีจำนวน 130,549 บาท 02 สตางค์ดังแจ้งข้างต้น จากเงินนี้จะต้องหักค่าอากรแสตมป์ยาสูบ 1,748 บาท 68 สตางค์ หักกันแล้วเหลือเงิน 128,800 บาท 34 สตางค์เป็นเงินซึ่งโจทก์ควรได้รับ แต่จำเลยจ่ายให้โจทก์เพียง 73,604 บาท15 สตางค์ ยังขาด 55,196 บาท 19 สตางค์ โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้กับดอกเบี้ย

จำเลยให้การมีข้อต่อสู้หลายประการ จะกล่าวในที่นี้เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทในชั้นฎีกา คือข้อต่อสู้มีว่าเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกไม่ใช่เงินราคาบุหรี่ แต่เป็นเงินส่วนหนึ่งต่างหากจากราคาบุหรี่ เรียกว่าเงินช่วยราชการยาสูบ ผู้ซื้อบุหรี่รายนี้ให้เงินนี้แก่ทางราชการกระทรวงการคลัง เป็นผลประโยชน์รายได้ของรัฐโจทก์ไม่มีสิทธิจะได้เงินนี้

ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า เงินนี้เป็นเงินช่วยราชการยาสูบซึ่งผู้ประมูลยอมชำระให้จำเลย ตามเงื่อนไขการประมูลต่างหากจากเงินค่าบุหรี่โจทก์ไม่มีสิทธิจะได้เงินจำนวนนี้ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ว่า เงินนี้เป็นค่าบุหรี่ จำเลยเอาเงินค่าบุหรี่ไปเป็นเงินช่วยราชการยาสูบเป็นการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายจำเลยได้เงินรายนี้ไปโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 55,196 บาท 19 สตางค์กับดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้ว ได้ความว่าในการขายทอดตลาดบุหรี่รายนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ขายแจ้งให้ผู้เข้าประมูลราคาทราบล่วงหน้าว่าเมื่อผู้ประมูลซื้อบุหรี่ได้แล้ว นอกจากจำนวนเงินประมูล ผู้ประมูลได้จะต้องเสียเงินอีกสองจำนวน คือเงินช่วยราชการยาสูบและเงินค่าอากรแสตมป์ยาสูบ คดีนี้คู่ความเถียงกันว่า ราคาบุหรี่นั้นหมายเฉพาะจำนวนเงินประมูล หรือหมายรวมถึงเงินช่วยราชการยาสูบด้วยส่วนอากรแสตมป์ไม่มีข้อเถียง เงินประมูล 73,604 บาท 15 สตางค์โจทก์รับไปแล้วส่วนเงินตามข้อกำหนดที่ว่า ผู้ประมูลได้ต้องเสียอีกจำนวนหนึ่งนั้นเป็นเงิน 55,196 บาท 19 สตางค์ เรียกว่าเงินช่วยราชการยาสูบ ผู้ประมูลเสียให้แก่เจ้าหน้าที่ไปแล้ว โจทก์ตั้งเป็นข้อพิพาทว่า เงินนี้เป็นราคาบุหรี่ควรต้องได้แก่โจทก์ด้วย

ข้อวินิจฉัยมีว่า ราคาบุหรี่หมายถึงเงินจำนวนไหน โดยปกติราคาบุหรี่หมายถึงจำนวนเงินที่ตกลงกันในการซื้อขาย การซื้อขายที่ตรงไปตรงมาปัญหาเรื่องราคาก็จะไม่มีอะไร แต่ในบางกรณีเช่นการซื้อขายประกอบด้วยเล่ห์กระเท่ห์หรือประกอบด้วยวิธียักเยื้องปัญหาเกิดขึ้นได้ดุจคดีนี้ คดีนี้การขายทอดตลาดผู้ขายเอาบุหรี่ซึ่งเป็นของโจทก์ออกขาย แต่การขายประกอบด้วยวิธียักเยื้องคือผู้ขายกำหนดให้ผู้ประมูลต้องเสียเงินอีกจำนวนหนึ่งต่างหากเงินจำนวนนี้ให้ยกเอาไปเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายอื่น เป็นข้อกำหนดให้โจทก์ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบฝ่ายเดียว ในการประมูลรายนี้ไม่มีปัญหา ฝ่ายผู้ประมูลย่อมต้องกะราคาบุหรี่คือ 1. เงินที่ต้องเสียต่างหากตามข้อกำหนดที่กล่าวแล้วและ 2. เงินประมูล ทั้งนี้ถ้าจะถือว่าเงินตามข้อ 2. เท่านั้นเป็นราคาบุหรี่ย่อมเสียความเที่ยงธรรมเห็นได้ถนัด ในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ว่า ราคาบุหรี่หมายถึงเงินจำนวนไหนจึงต้องอาศัยพฤติการณ์ตามที่แจ้งไว้นั้น เพราะฉะนั้นข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าราคาบุหรี่หมายถึงเงินทั้งสองจำนวนคือเงินช่วยราชการบุหรี่ก็เป็นราคาบุหรี่ด้วย

จำเลยเถียงว่า การที่จำเลยตั้งข้อกำหนดเรียกเอาเงินช่วยราชการยาสูบก็โดยอาศัยคำสั่งกระทรวงการคลัง ข้อนี้มีมูล แต่คำสั่งกระทรวงการคลัง บางทีจะไม่หมายถึงการเอาบุหรี่ของคนภายนอกออกขายอย่างที่ปรากฏในคดีนี้ หากว่าคำสั่งกระทรวงการคลังจะหมายถึงการขายทอดตลาดบุหรี่ของคนภายนอกอย่างในคดีนี้ คำสั่งซึ่งไม่มีกฎหมายสนับสนุนก็ไม่สามารถให้จำเลยพ้นความรับผิดในการคืนเงิน

จำเลยเถียงว่า เงินนี้ผู้ซื้อบุหรี่ให้แก่ทางราชการกระทรวงการคลังข้อนี้ฝืนความจริง ความจริงเงินนี้เจ้าหน้าที่เรียกเอาและเงินนี้เจ้าหน้าที่รับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้เป็นเหตุให้โจทก์เสียเปรียบ

จำเลยเถียงว่า ยาสูบเป็นของรัฐทำเอง ตั้งราคาขายเอง จะเรียกเงินช่วยราชการยาสูบก็ทำในระหว่างกันเอง ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจำเลยเถียงในฎีกาดังนี้ แต่ความจริงบุหรี่รายนี้ไม่ใช่เป็นของรัฐทำเอง เป็นบุหรี่ของโจทก์ต่างหาก ข้อเท็จจริงคนละอย่างจึงไม่มีเหตุผลในการที่จำเลยนำมาเปรียบเทียบ

จำเลยเถียงว่า เมื่อเจ้าหน้าที่จะขายบุหรี่โจทก์ไม่คัดค้านข้อนี้โจทก์ว่าโจทก์ไม่รับรู้ในการขายทอดตลาด โจทก์คัดค้านตลอดมา เกี่ยวกับข้อนี้ จะอย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏเลยว่าโจทก์ยินยอมในการขายทอดตลาดบุหรี่ จำเลยให้การก็มิได้ตั้งประเด็นในข้อยินยอม เพราะฉะนั้นฎีกาจำเลยข้อนี้ตกไป

จำเลยเถียงว่า จำเลยมีอำนาจขายบุหรี่เพราะบุหรี่จวนเสีย ข้อนี้หากจะจริงก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยข้างต้นเปลี่ยนแปลง การขายถูกหรือผิดมีอำนาจหรือไม่มีอำนาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เวลานี้ว่ากันเรื่องราคาบุหรี่และการคืนเงิน สรุปจึงเป็นอันว่า ฎีกาจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น

ศาลนี้พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายชั้นฎีกาแก่โจทก์1,000 บาท

Share