คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยปกครองที่ดินของศาลเจ้าเพียง 5-6 ปียังไม่ได้กรรมสิทธิครอบครองโดยปรปักษ์
ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองศาลเจ้ามีอำนาจมอบอำนาจให้ผู้ตรวจตราศาลเจ้าฟ้องคดีเกี่ยวกับศาลเจ้าได้

ย่อยาว

คดีนี้นายจุ่น แซ่เฮ้ง โจทก์ได้รับแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัดธนบุรีให้เป็นผู้ตรวจตราสอดส่องศาลจ้าวโรงสุกรจังหวัดธนบุรีและนายลักได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองศาลจ้าวและได้มอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีนี้

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าที่ดินส่วนหนึ่งของศาลจ้าวมีกำหนด 3 ปีครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ยอมออก คงเช่าโดยอนุโลมตามสัญญาเดิมต่อมาพ.ศ. 2485 จึงยอมออกไป ต่อมาปี พ.ศ. 2487 จำเลยเข้ามาอยู่อีกแต่จำเลยไม่ชำระค่าเช่าตลอดมาเป็นเวลา 6 ปี ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นที่กุศลสถานชนิดศาลจ้าวกับให้จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท

จำเลยต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและเปิดเผย 15 ปีกว่าแล้ว จึงได้กรรมสิทธิ์ และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลยแม้จะอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากนายลัก นายลักก็ไม่มีอำนาจมอบอำนาจให้ฟ้องได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของศาลจ้าวโรงสุกรพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาทชั้นแรกโดยการเช่าครบกำหนดไม่ออก ดังนี้ถือว่าได้ปกครองอยู่โดยสัญญาเช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570 จะอ้างว่าครอบครองโดยปรปักษ์ไม่ได้ และการที่จำเลยได้ออกจากที่พิพาทไปแล้วกลับเข้ามาอยู่ใหม่ในตอนหลังนับถึงเวลาโจทก์ฟ้องก็เพียง 5-6 ปี ยังหาได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองไม่ ส่วนนายลักนั้นเป็นผู้ปกครองศาลจ้าวมีอำนาจตามกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลจ้าวข้อ 14 ก. เป็นโจทก์หรือจำเลยในอรรถคดีทั้งแพ่งและอาญา จึงมีอำนาจมอบอำนาจให้นายจุ่นฟ้องได้ ดังนี้ปัญหาเรื่องนายจุ่นจะมีอำนาจฟ้องโดยตนเองหรือไม่จึงไม่สำคัญ

Share