แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ จำเลย พิพาทสิทธิในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นคดีมีทุนทรัพย์ และกำหนดราคาที่ดินพิพาทไว้ 10,000 บาทเมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวไว้ ทั้งโจทก์และจำเลยต่างเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ศาลชั้นต้นกำหนดตลอดมากรณีจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท จำเลยจึงต้อง ห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้ามาปักเสาปูนล้อมรั้วลวดหนามในที่ดินโจทก์ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามออกไปจากที่ดินโจทก์พร้อมทำให้ที่ดินอยู่ในสภาพเดิม หากไม่รื้อถอนให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนโดยจำเลยออกค่าใช้จ่าย ห้ามจำเลยและบริวารยุ่งเกี่ยวกับที่ดินโจทก์อีกต่อไป กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่ดินพิพาทที่โจทก์กล่าวหาเป็นของจำเลยซื้อมาจากโจทก์ จำเลยล้อมรั้วตั้งแต่ซื้อมาต่อมาโจทก์กับพวกบุกรุกเข้ามาในที่ดินจำเลยทำลายเสาปูนและรั้วลวดหนาม ขอให้ยกฟ้องกับให้โจทก์รื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามที่โจทก์บุกรุกเข้าไปปลูกสร้างออกไปจากที่ดินจำเลย และทำที่ดินให้อยู่ในสภาพเดิมหากไม่รื้อถอนให้จำเลยเป็นผู้รื้อถอนโดยโจทก์ออกค่าใช้จ่าย ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินจำเลย กับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้บุกรุกที่ดินจำเลยและไม่เคยรื้อถอนเสาปูนหรือรั้วลวดหนามของจำเลย ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามออกไปจากที่ดินโจทก์ พร้อมทำที่ดินให้อยู่ในสภาพเดิม หากไม่ยอมรื้อถอนให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนโดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ห้ามจำเลยและบริวารเข้ายุ่งเกี่ยวในที่ดินโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้องแก่โจทก์จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามออกไปจากที่ดินโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยคืนค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่าตามคำฟ้องคำให้การและฟ้องแย้งของโจทก์จำเลยเป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทเป็นคดีมีทุนทรัพย์และศาลชั้นต้นกำหนดราคาที่ดินพิพาท 10,000 บาท จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่งซึ่งจำเลยฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้ กรณีไม่เป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิ์ เพราะที่ดินพิพาทเป็นเพียงที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) มิใช่โฉนดที่ดินหรือโฉนดอื่นตามกฎหมายที่ดิน จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นสำคัญผิดและกำหนดราคาที่ดินไว้ 10,000 บาท ซึ่งคลาดเคลื่อนหรือไม่ถูกต้องต่อการกำหนดลักษณะประเด็น โดยเรื่องนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตรวจสำนวนแล้วทั้งสองฝ่ายต่างอ้างและต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องกรรมสิทธิ์ (ที่ถูกน่าจะเป็นสิทธิ) ในที่ดินพิพาทกรณีจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ดังปรากฏตามคำสั่งดังกล่าวในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นฉบับลงวันที่ 24 เมษายน 2538ดังนั้นเมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไว้ อีกทั้งโจทก์และจำเลยต่างได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ดังกล่าวตลอดมา จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่วินิจฉัยว่าคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน