แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทายาททุกคนทำสัญญาตกลงยกที่ดินมรดกบางส่วนให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ของผู้ตาย  โดยโจทก์มิได้เป็นคู่สัญญาด้วย  จึงเป็นการทำสัญญาเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก  โจทก์ลงชื่อรับทราบสัญญาในช่องพยานและยึดถือสัญญานั้นไว้ ประกอบกับได้บอกกล่าวจำเลยซึ่งเป็นทายาท และผู้จัดการมรดกให้โอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์ตามสัญญาแล้ว  ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาแก่จำเลยที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 374    จำเลยต้องโอนที่ดินนั้นให้แก่โจทก์และทายาทจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญานั้นไม่ได้  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 375
โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดก  ให้โอนที่ดินตามสัญญาที่ทายาทตกลงยกให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้  เป็นการฟ้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญา  มิใช่เป็นการฟ้องคดีมรดกอันอยู่ในบังคับจะต้องฟ้องภายในหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 1754
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่านายเยื้อนกู้เงินโจทก์ไปหลายครั้งแล้วถึงแก่กรรมโดยยังมิได้ชำระหนี้แก่โจทก์  จำเลยซึ่งเป็นบุตรและเป็นทายาทของนายเยื้อน  เป็นผู้จัดการมรดกของนายเยื้อน  ตกลงยอมชำระหนี้เงินกู้ที่นายเยื้อนค้างชำระแก่โจทก์  โดยยอมโอนที่ดินอันเป็นมรดกของนายเยื้อนบางส่วนให้แก่โจทก์เป็นการหักกลบหนี้  แต่จำเลยเพิกเฉย  จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า  ข้อตกลงในการประชุมจัดการมรดกของนายเยื้อนระหว่างทายาทเป็นโมฆะ  ไม่มีผลตามกฎหมาย  คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า  คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ  ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกได้ตกลงและผูกพันจะต้องโอนที่ดินตามฟ้องแก่โจทก์  พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า  คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ  โจทก์มีสิทธิเรียกให้ชำระหนี้จากคู่สัญญาได้  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา ๓๗๔  พิพากษากลับ  ให้จำเลยโอนที่ดินตามฟ้องให้โจทก์
จำเลยฎีกาว่า  โจทก์ยังมิได้แสดงเจตนารับโอนที่ดินแทนการชำระหนี้จำเลยและทายาทมีสิทธิเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเสียใหม่  จำเลยจึงไม่ต้องโอนที่ดินตามฟ้องให้โจทก์  โจทก์ฟ้องเป็นคดีมรดกเกินกว่า ๑ ปี  คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  เมื่อโจทก์เป็นเจ้าหนี้นายเยื้อนผู้ตาย  ต่อมาทายาทของนายเยื้อนทุกคนทำสัญญาตกลงยกที่ดินตามฟ้องให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้  สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาผูกพันทายาทเกี่ยวกับการแบ่งมรดก  โจทก์มิได้เป็นคู่สัญญาด้วย  จึงเป็นการทำสัญญาเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา ๓๗๔  พฤติการณ์ที่จำเลยมอบสัญญานั้นทั้งสองฉบับให้แก่โจทก์ยึดถือไว้  โจทก์ลงชื่อรับทราบสัญญาในช่องพยาน  และนำสืบว่าได้บอกกล่าวให้จำเลยโอนที่ดินตามฟ้องให้แก่โจทก์ตามสัญญา  ซึ่งจำเลยมิได้นำสืบโต้แย้ง  ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาแก่จำเลยที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นจำเลยและทายาทจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญานั้นไม่ได้  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา ๓๗๕   จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก  มีหน้าที่ในการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้กองมรดก  จึงต้องจัดการโอนที่ดินตามฟ้องให้แก่โจทก์
โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดก  ให้โอนที่ดินตามสัญญาที่ทายาทตกลงยกให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้  เป็นการฟ้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญามิใช่เป็นการฟ้องคดีมรดกอันอยู่ในบังคับจะต้องฟ้องภายในหนึ่งปี  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา ๑๗๕๔ ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ  คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว  ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
