คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขับรถด้วยความเร็วสูง ขับผิดทางจราจร จนเป็นเหตุให้ชนรถคันอื่นที่เขาอยู่ในเส้นทางแล้ว เช่นนี้ ฟังได้ว่า เหตุทั้งนี้ย่อมเกิดขึ้นด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้นำรถเข้าร่วมเดินรถกับบริษัทจำเลยที่ 3 ได้ขับรถด้วยความประมาทเลินเล่อขาดความระมัดระวัง โดยใช้ความเร็วสูง ฝ่าฝืนกฎจราจรชนรถจักรยาน 3 ล้อเครื่องโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหาย กับค่าที่ต้องขาดประโยชน์แก่โจทก์ พร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 สู้ว่า มิได้ขับรถยนต์โดยประมาท โจทก์ไม่เสียหายฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 และ 3 ให้การปฏิเสธความรับผิดอย่างเดียวกับจำเลยที่ 1

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา จำเลยมิใช่ผู้ประมาทโดยตรง โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้ ให้งดสืบพยาน พิพากษายกฟ้อง

คู่ความอุทธรณ์ฎีกาต่อมาในข้อที่ศาลให้งดสืบพยาน ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้สืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสาม แม้จำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อต้องรับผิดจำเลยที่ 3 ก็ไม่ต้องรับผิดร่วมด้วยเพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 3 ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์วิ่งมาในอัตราเร็วและวิ่งมาตามทางข้างขวามือของจำเลยซึ่งผิดเส้นทาง เป็นความผิดของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 เอารถคันเกิดเหตุเข้าร่วมเดินรถกับบริษัทจำเลยที่ 3 ถือว่าเป็นกิจการของบริษัทจำเลยที่ 3 ด้วย จำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ค่าเสียหายเป็นราคาที่พอสมควร พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ราคารถสามล้อเครื่องให้แก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยคำขออย่างอื่นให้ยก

จำเลยที่ 1 และ 2 ฎีกา ส่วนจำเลยที่ 3 ยื่นฎีกาขาดอายุความแล้วศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ คดีเฉพาะจำเลยที่ 3 จึงยุติ

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยขับรถด้วยความเร็วสูง ขับผิดทางจราจรจนเป็นเหตุให้ชนรถคันอื่นที่เขาอยู่ในเส้นทางแล้วเช่นนี้ ฟังได้ว่าเหตุทั้งนี้ย่อมเกิดขึ้นด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยแต่ผู้เดียว จำเลยจึงต้องรับผิด

พิพากษายื

Share