แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
หน้าที่สำคัญของผู้จัดการมรดกคือ รวบรวมทรัพย์มรดกของผู้ตายมาแบ่งปันให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ หากผู้ร้องเห็นว่า ตนมีสิทธิในทรัพย์มรดกดังกล่าวเพียงผู้เดียวก็ชอบที่จะเรียกร้องเอาทรัพย์ดังกล่าวจากฝ่ายที่โต้แย้งโดยตรงอย่างคดีมีข้อพิพาท เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องไม่ยินยอมแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทอื่น ๆ เป็นเวลาประมาณ 2 ปี นับแต่ศาลมีคำสั่งให้ตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน จึงถือได้ว่าผู้ร้องละเลยมิได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดก หากให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกต่อไปย่อมจะล่าช้า ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทได้ จึงมีเหตุสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727วรรคแรก
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางพลอย ธูปบูชา ผู้ตายในส่วนทรัพย์มรดกของนางพลอย กับให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉิม ธูปบูชา ผู้ตายร่วมกัน ในส่วนทรัพย์มรดกของนายฉิมโดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องว่า นับแต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันในทรัพย์มรดกของนายฉิม ผู้ร้องไม่ดำเนินการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทตามบัญชีเครือญาติ พยายามหน่วงเหนี่ยวหาผลประโยชน์ในกองมรดกแต่ผู้เดียวและไม่ยอมให้ผู้คัดค้านดำเนินการแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท จึงถือว่าผู้ร้องละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกขอให้ศาลถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่า เหตุที่ผู้ร้องไม่แบ่งปันทรัพย์มรดกแก่ผู้คัดค้านและทายาทอื่นของนายฉิม เนื่องจากทรัพย์มรดกดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่นางพลอยมารดาผู้ร้องได้มาก่อนอยู่กินกับนายฉิมแต่หลังจากอยู่กินกับนายฉิมแล้วนายฉิมนำที่ดินไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้ว ก่อนตายนายฉิมกับนางพลอยได้ยกที่ดินให้ผู้ร้องเข้าครอบครองทำประโยชน์เป็นส่วนสัดแล้ว ที่ดินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์มรดกของนายฉิม ขอให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีเพียงพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดไต่สวน แล้วมีคำสั่งให้ถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉิมธูปบูชา ให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉิมเพียงผู้เดียวคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ส่วนปัญหาที่ผู้ร้องฎีกาว่าทรัพย์มรดกดังกล่าวนางพลอย นายฉิมยกให้ผู้ร้องแล้วจึงไม่ใช่มรดกผู้ร้องจึงไม่ยอมแบ่งปันทรัพย์ดังกล่าวให้แก่ทายาท ถือได้ว่าผู้ร้องละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดกอันเป็นเหตุให้ถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1727 วรรคแรกนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า หน้าที่สำคัญของผู้จัดการมรดกก็คือรวบรวมทรัพย์มรดกของผู้ตายนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดก หากผู้ร้องเห็นว่าตนมีสิทธิในทรัพย์มรดกดังกล่าวเพียงผู้เดียวก็ชอบที่จะเรียกร้องเอาทรัพย์ดังกล่าวจากฝ่ายที่โต้แย้งโดยตรงอย่างคดีมีข้อพิพาทเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้องไม่ยินยอมแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทอื่น ๆ เป็นเวลาประมาณ 2 ปีนับแต่ศาลมีคำสั่งให้ตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน จึงถือได้ว่าผู้ร้องละเลยมิได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดกหากให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกต่อไปย่อมจะล่าช้าก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทได้ จึงมีเหตุสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 วรรคแรก ที่ศาลล่างทั้งสองให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน