คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถึงการที่จำเลยตกลงจ้างโจทก์ทำการบรรทุกมันสำปะหลังส่งถึงโรงงานจำเลย โดยกำหนดราคาให้ตามน้ำหนักของมันและระยะทางที่นำส่ง ได้มีการหักค่าบรรทุกไว้ตอนที่จะขายมัน เมื่อคิดบัญชีกันแล้วจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่ขอให้ใช้ เช่นนี้ เป็นการบรรยายถึงสภาพของข้อตกลงที่จะให้จำเลยรับผิดพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
โจทก์จำเลยมีบัญชีต่อกัน และมีการตัดทอนบัญชีอันเกิดแก่กิจการระหว่างกัน ถือได้ว่าเป็นบัญชีเดินสะพัด อายุความย่อมมีกำหนด 10 ปี
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามบัญชีหนี้สินที่จะลงบัญชีกันไว้ตามเอกสารที่อ้างอิงเป็นเงิน 33,494 บาท เมื่อศาลอุทธรณ์ได้ตรวจหลักฐานแล้ว เห็นว่ามีจำนวนที่เป็นหนี้กันอยู่จริงเพียง 29,030 บาท ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับตามจำนวนที่แท้จริงได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกคำขอของโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตกลงจ้างให้โจทก์ขนส่งมันสำปะหลังจากไร่เข้าสู่โรงงานโดยตรง ตกลงค่าจ้างตอบแทนตันละ ๒๕ บาท ถึง ๓๐ บาท โดยเปิดบัญชีเดินสะพัดต่อกัน โจทก์ทำการขนส่งมันสำปะหลังให้จำเลยตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ถึง ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ จึงเลิกจ้าง เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้คิดบัญชีกัน ปรากฏว่าจำเลยค้างค่าจ้างโจทก์เป็นเงิน ๓๓,๔๙๔ บาท จึงขอให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยจ้างและตกลงจ่ายค่าตอบแทน และไม่ได้ตกลงเปิดบัญชีเดินสะพัดกัน ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ทั้งฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้วด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๓๑,๗๖๗ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ ๒๙,๐๓๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงการที่จำเลยมาตกลงจ้างโจทก์ทำการบรรทุกมันสำปะหลังส่งถึงโรงงานจำเลย โดยกำหนดราคาให้ตามน้ำหนักของมันและระยะทางที่นำส่ง ได้มีการหักค่าบรรทุกไว้ตอนที่จะขายมัน เมื่อคิดบัญชีกันแล้วจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่ ขอให้ใช้ให้ เช่นนี้ เป็นการบรรยายถึงสภาพของข้อตกลงสัญญาที่จะให้จำเลยรับผิดที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยชัดแจ้ง ซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นเป็นข้อนำสืบต่อไป ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้ตกลงจ้างโจทก์บรรทุกมันจริง ปัญหาว่า ได้มีบัญชีเดินสะพัดต่อกันหรือไม่ ก็ปรากฏว่ามีบัญชีต่อกันไว้และมีการตัดทอนบัญชีอันเกิดแก่กิจการระหว่างโจทก์และจำเลย ถือได้ว่าเป็นบัญชีเดินสะพัด อายุความย่อมมีกำหนด ๑๐ ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ได้ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามบัญชีหนี้สินที่จดลงบัญชีกันไว้ตามเอกสารที่อ้างอิง เป็นเงิน ๓๓,๔๙๔ บาท เมื่อศาลอุทธรณ์ได้ตรวจหลักฐานแล้ว และเห็นว่ามีจำนวนเงินที่เป็นหนี้กันอยู่จริง เพียง ๒๙,๐๓๐ บาท ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับตามจำนวนที่เป็นหนี้แท้จริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๒ หาเป็นการฟ้องนอกคำขอของโจทก์ดังที่จำเลยฎีกาไม่
พิพากษายืน

Share