แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีเป็นคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกา ในข้อเท็จจริง ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาที่ว่าจำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน พิพาทจากโจทก์แล้วหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรได้รับ การวินิจฉัยจากศาลสูง และคดีนี้เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ อันมิอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 53)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกไป จากที่ดินตามน.ส.3 ก. เลขที่ 3520 เล่ม 36 ก. หน้า 21 ตำบลกุดล้องชัยอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 52)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 53)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากที่ดินพิพาทก่อนครบกำหนดเวลาตามสัญญาขายฝากแล้ว แม้การไถ่ถอนจะไม่ได้จดทะเบียนก็ตามก็เป็นเพียงทำให้ การกลับคืนมาซึ่งทรัพยสิทธิในที่ดินยังไม่บริบูรณ์เท่านั้นแต่ในระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยกันเองย่อมมีผลใช้ยันก็ได้ ทำให้จำเลยไม่ใช่ผู้อาศัยในที่ดินพิพาท การที่โจทก์ฎีกาว่า การชำระค่าไถ่ถอนที่ดินนั้นจำเลยมิได้มีหลักฐานการรับเงิน มาแสดงต่อศาล ทั้งไม่มีพยานจำเลยรู้เห็นหรือเบิกความสนับสนุน จึงต้องฟังว่า จำเลยมิได้ไถ่ถอนการขายฝากภายในกำหนด นั้น ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งคดีนี้เป็นคดีฟ้องขอให้ ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง