แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คนร้ายปลดโคออกจากเกวียนแล้วปล่อยโคไว้แถวบริเวณที่เกวียนจอดนั้นเองเอาโคไปไม่ได้ เพราะผู้เสียหายกับชาวบ้านพากันมายังที่เกิดเหตุเกือบจะในทันที และตามบริเวณทุ่งนาใกล้ ๆ ก็ยังมีคนเกี่ยวข้าวอยู่เป็นอันมาก คนพวกนี้ได้คอยสกัดกั้นจำเลยไว้จนไม่สามารถจะนำโคไปได้ ต้องทิ้งไว้แล้วหนีเอาตัวรอด ความผิดของจำเลยจึงเป็นเพียงชั้นพยายามเท่านั้น
จำเลย (อายุ 19 ปี) กับพวกรวม 3 คนปล้นทรัพย์ในเวลากลางวัน อันน่าจะทำไปด้วยความคนองตามประสาเด็กหนุ่ม ไม่ได้คิดและตระเตรียมการให้รอบคอบอย่างคนธรรมดาที่คิดจะทำการใหญ่เช่นนี้ ผลที่ได้รับก็คือ พวกของตนถูกยิงตายไป 1 คน ตัวเองก็ถูกยิงบาดเจ็บ ดังนี้ ศาลลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 ตามมาตรา 76 เป็นการสมควรแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ร่วมกันปล้นโคของนายไป๋
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ ซึ่งเป็นบทหนัก คดีส่วนตัวจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๒๘๘,๘๐ ลดมาตราส่วนโทษลง ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๖
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำพยานโจทก์ไม่ปรากฏว่า เมื่อคนร้ายปลดโค ๔ ตัว ออกจากเกวียน ๒ เล่มแล้ว ได้พาโคไปไกลเพียงใด จึงทิ้งโควิ่งหนี เมื่อพิเคราะห์พยานโจทก์ทุกปากแล้ว น่าเชื่อว่าคนร้ายปล่อยโคไว้แถวบริเวณที่เกวียนจอดนั้นเอง เหตุที่คนร้ายเอาโคไปไม่ได้ เพราะผู้เสียหายกับชาวบ้านพากันมายังที่เกิดเหตุเกือบจะในทันที เพราะที่เกิดเหตุห่างจากหมู่บ้านเพียง ๗ เส้นเท่านั้น และตามบริเวณทุ่งนาใกล้ ๆ ก็ยังมีคนขนข้าว เกี่ยวข้าวอยู่เป็นอันมาก คนพวกนี้ได้คอยสกัดกั้นจำเลยไว้จนไม่สามารถจะนำโคไปได้ ต้องทิ้งไว้แล้วหนีเอาตัวรอด ฉะนั้น ความผิดของจำเลยที่ ๑ เป็นเพียงขั้นพยายาม
ปัญหาต่อไปมีว่า จะควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๗๖ หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ น่าจะไปด้วยความคนองตามประสาเด็กหนุ่มไม่ได้คิดและตระเตรียมการให้รอบคอบอย่างคนธรรมดาที่คิดจะทำการใหญ่เช่นนี้ ผลที่ได้รับก็คือพวกของตนถูกยิงตายไป ๑ คน ตัวเองก็ถูกยิงบาดเจ็บ ที่ศาลอุทธรณ์ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยผู้นี้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๖ เป็นการสมควรแล้ว
พิพากษายืน.