แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อำนาจฟ้องคดีที่ดินเนื่องจากโจทก์เป็นคนต่างด้าวนั้นเป็นเรื่องระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่กับคนต่างด้าว ซึ่งจะต้องปฏิบัติต่อกัน คนต่างด้าวจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้เพียงใดหรือไม่ ย่อมอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (เทียบฎีกาที่ 1113/2494)
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามกันมาให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินที่โจทก์ซื้อไว้และครอบครองมาเกิน ๑๐ ปี ที่ดินนั้นจำเลยเป็นผู้ถือโฉนดไว้และได้ให้คนงานเทศบาลเข้าตัดฟันต้นไม้และทำถนนในที่พิพาท ขอให้บังคับจำเลยนำโฉนดไปแบ่งแยกที่ดินให้โจทก์ ให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างและให้ใช้ค่าเสียหาย ศาลทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นคนจีนต่างด้าวซื้อที่ดินแปลงที่โจทก์ครอบครองอยู่นี้ไว้ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๕ ฝ่ายจำเลยมิได้เกี่ยวข้องหรือใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทอย่างใดเลย ที่ดินจึงเป็นสิทธิของโจทก์ และวินิจฉัยเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องได้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยในเรื่องอำนาจฟ้องคดีที่ดินของโจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวนั้นว่า คนต่างด้าวจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้เพียงใดหรือไม่ เป็นเรื่องระหว่างรัฐกับคนต่างด้าว ยิ่งโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทไว้ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินที่จำเลยอ้างถึง โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อเท็จจริงอื่น ๆ คงฟังเช่นเดียวกับศาลเดิม จึงพิพากษายืน