แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความชัดว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด จำเลยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีและใช้ได้ตามกฎหมาย ทั้งคดีไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลางประกอบกับโจทก์มิได้นำสืบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด จำเลยจึงไม่จำเป็นต้องนำสืบหักล้างดังนั้นแม้จำเลยจะไม่ได้นำสืบปฏิเสธว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจำเลยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ก็ไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 72 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 เรียงกระทงลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุก 10 ปี ฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 11 ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก7 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 ลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 6 ปี 8 เดือนให้ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับข้อหาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 คดีมีปัญหาที่ศาลฎีกาต้องวินิจฉัยเฉพาะความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฎีกาของโจทก์เท่านั้น ซึ่งโจทก์ฎีกาว่าโจทก์นำสืบชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้เสียหาย และจำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างว่าอาวุธปืนดังกล่าวจำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานนี้นั้น เห็นว่าแม้คดีจะฟังได้ว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้เสียหายก็ตาม สำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความชัดว่าจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนดังกล่าว แต่คดีนี้โจทก์หาได้นำสืบเลยว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดจำเลยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีและใช้ได้ตามกฎหมายทั้งมิได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลาง เฉพาะอย่างยิ่งโจทก์ไม่ติดใจสืบพนักงานสอบสวนจึงทำให้ไม่ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงไม่จำเป็นต้องนำสืบหักล้าง ดังนั้นแม้จำเลยจะไม่ได้นำสืบปฏิเสธว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจำเลยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนก็ตาม ก็ไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดเกี่ยวกับข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน