คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4206/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีลูกระเบิดซ้อมขว้างซึ่งอยู่ในสภาพทำการซ้อมขว้าง ไม่ได้ เพราะชนวนถูกทำลายมาก่อนและวัตถุระเบิด (ดินดำ) ที่บรรจุอยู่ภายในถูกสำรอกหมดแล้วไว้ในครอบครอง ดังนี้ ลูกระเบิดของกลางจึงไม่เป็นวัตถุระเบิด และย่อมไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนด้วย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และเมื่อลูกระเบิดของกลางนั้นสิ้นสภาพความเป็นลูกระเบิดแล้ว ทั้งจำเลยมีเจตนาเพียงเก็บไว้บนหิ้งบูชา ศาลฎีกาจึงไม่ริบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 5, 6, 11, 13 ทวิ,59, 62, 89, 106, 106 ทวิ, 116 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่งและมาตรา 89 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และมาตรา 67 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2ไว้เพื่อขาย จำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือนและริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง,67 และจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี อีกกระทงหนึ่งลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน เมื่อรวมกับโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วเป็นจำคุกจำเลย 4 ปี 8 เดือน รับลูกระเบิดของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีคงมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่าจำเลยกระทำผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองตามฟ้องหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีลูกระเบิดของกลางไว้ครอบครองจริงแต่ลูกระเบิดเป็นลูกระเบิดซ้อมขว้างของกองทัพอากาศไทยซึ่งอยู่ในสภาพทำการซ้อมขว้างไม่ได้ เพราะชนวนถูกทำลายมาก่อนและวัตถุระเบิด (ดินดำ) ที่บรรจุอยู่ภายในถูกสำรอกหมดแล้ว ดังนี้ลูกระเบิดของกลางจึงไม่เป็นวัตถุระเบิด และย่อมไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนด้วย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองตามฟ้อง ส่วนลูกระเบิดของกลางนั้นสิ้นสภาพความเป็นลูกระเบิดแล้ว ทั้งจำเลยเก็บไว้บนหิ้งบูชาศาลฎีกาจึงไม่ริบ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดข้อหาฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ไม่ริบลูกระเบิดของกลางนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3

Share