แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกฐานเล่นการพนันโดยให้รอการลงโทษไว้ระหว่างรอการลงโทษจำเลยกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติการพนันอีกดังนี้เมื่อจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุกโดยอยู่ระหว่างรอการลงโทษก็ไม่เรียกว่าจำเลยพ้นโทษไปแล้วจึงเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันไม่ได้และเมื่อคดีหลังศาลมิได้ลงโทษจำคุกจำเลยจึงเอาโทษจำคุกคดีก่อนมาบวกไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันมาแล้ว พ้นโทษมาไม่ครบ 1 ปี มากระทำผิดอีก ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันฯ และให้นำโทษจำคุก 5 วันที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกกับโทษในคดีนี้ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงปรับ 500 บาท ที่ขอให้ศาลเพิ่มโทษนั้น ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดในระหว่างที่ศาลรอการลงโทษจำคุก จึงเพิ่มโทษไม่ได้ และที่ขอให้นำโทษที่รอไว้มาบวกกับโทษในคดีนี้ ศาลได้ลงโทษปรับจำเลย จึงไม่บวกโทษให้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเคยกระทำผิดฐานเล่นการพนันแปดเก้าถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 5 วัน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปีจำเลยชำระค่าปรับแล้ว ในระหว่างรอการลงโทษจำคุก จำเลยได้กระทำผิดคดีนี้อีกศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุก โดยอยู่ระหว่างรอการลงโทษก็ไม่เรียกว่าจำเลยได้พ้นโทษแล้ว และจะถือว่าจำเลยพ้นโทษแต่วันศาลพิพากษาคดีก่อนหาได้ไม่ จึงเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันฯ ไม่ได้ เมื่อเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ และคดีนี้ศาลมิได้ลงโทษจำคุกจำเลย จึงเอาโทษจำคุกคดีก่อนมาบวกกับโทษคดีนี้ไม่ได้
พิพากษายืน
