แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
ลำห้วยพิพาทในที่นาของจำเลยเกิดจากการสร้างฝายกั้นน้ำปิดกั้นลำห้วยสาธารณะทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทางเดินไหลเข้ามาในที่นาจำเลยมิใช่เป็นลำห้วยที่มีมาแต่ดั้งเดิมตามธรรมชาติจึงมิใช่ทางน้ำสาธารณะดังนั้นลำห้วยพิพาทซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตที่ดินจำเลยจึงเป็นสิทธิของจำเลยโดยเฉพาะ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลรักษาสาธารณสมบัติของแผ่นดินเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2511 ทางราชการได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 305 ให้แก่นายสง่า ปราบนอก ด้วยความผิดหลงคลุมเอาลำห้วยอีหลอดและทางสาธารณะข้ามลำห้วยอีกหลอด อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นเนื้อที่ 13 ไร่ 64 ตารางวา ที่แปลงนี้ได้มีการโอนเปลี่ยนมือกันมาจนถึงจำเลยซึ่งครอบครองอยู่ในปัจจุบัน ต่อมาทางราชการตรวจพบ จึงได้กันเอาลำห้วยและทางดังกล่าวออกไปจาก น.ส.3 ของจำเลยตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและแจ้งคำสั่งให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยยังคงครอบครองลำห้วยและทางนั้นทำให้ประชาชนไม่อาจใช้น้ำและทาง ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากลำห้วยและทางสาธารณะ จำเลยให้การว่าเดิมที่ดินจำเลยไม่มีลำห้วย ลำห้วยอีหลอดตามฟ้องอยู่ทางทิศตะวันตกของที่นาของจำเลย เมื่อปี พ.ศ. 2493 นายสาย สีนาดีผู้ใหญ่บ้านโสกนกเต็น ชักชวนราษฎรทำทำนบปิดกั้นลำห้วยอีหลอดเพื่อกักน้ำไว้ทางด้านเหนือ เป็นเหตุให้กระแสน้ำไม่ไหลไปตามลำห้วยธรรมชาติและท่วมล้นฝั่งไหลบ่าเข้ามาในที่นาของจำเลย เกิดช่องทางน้ำคล้ายลำห้วยสาธารณะขึ้นส่วนทางสาธารณะก็ไม่มีในที่นาจำเลย ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงเชื่อว่าลำห้วยพิพาทซึ่งไหลผ่านที่นาจำเลยเกิดขึ้นจากการที่กระแสน้ำเปลี่ยนทางเดินเพราะการสร้างฝายวังลิ้นฟ้าซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ มิใช่เป็นลำห้วยที่มีมาแต่ดั้งเดิมตามธรรมชาติ แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ถือไม่ได้ว่าลำห้วยดังกล่าวเป็นทางน้ำสาธารณะ ดังนั้นลำห้วยพิพาทซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตที่ดินของจำเลย จึงเป็นสิทธิของจำเลยโดยเฉพาะผู้ใดจะกระทำละเมิดรบกวนสิทธิอันมีอยู่โดยชอบธรรมของจำเลยมิได้ พิพากษายืน