แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถ้าพินัยกรรม์ได้ทำเป้นต้นฉะบับหลายฉะบับ การเพิกถอนไม่บริบูรณ์จนกว่าจะได้ทำแก่ต้นฉะบับนั้นทุกฉะบับการที่ผู้ทำพินัยกรรม์เพิกถอนพินัยกรรม์ด้วยวาจานั้นไม่มีผลเป็นการเพิกถอนตามกฎหมายแต่ประการใดผู้ทำพินัยกรรม์สั่งให้ทำลายพินัยกรรม์ของตนเสียแต่การทำลายได้กระทำภายหลังที่ผู้ตายถึงแก่ความตายแล้วดังนี้ การทำลายไม่เป็นผลเพิกถอนความสมบูรณ์ของพินัยกรรม์นั้น
ย่อยาว
โจทก์จำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดากับ ผู้ตายเป็นปู่โจทก์จำเลยนี้ ผู้ตายได้ทำพินัยกรรม์ยกนารายพิพาทให้โจทก์ พินัยกรรม์ทำเป็น ๒ ฉะบับ ฉะบับหนึ่งมารดาโจทก์จำเลยรักษาไว้ อีกฉะบับหนึ่งให้กำนันรักษาไว้ ต่อมาผู้ตายได้ฉีกพินัยกรรม์ฉะบับที่มารดาโจทก์จำเลยรักษาเสีย แล้วสั่งให้เอาพินัยกรรม์ซึ่งอยู่ที่กำนันฉีกเสียด้วย ต่อเมื่อผู้ตานตายแล้ว มารดาโจทก์จำเลยจึงไปเอาพินัยกรรม์ซึ่งอยู่ที่กำนันมาฉีก
ศาลฎีกาตัดสินว่าพินัยกรรม์ซึ่งผู้ตายได้ทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๖ นั้น ทำเป็น ๒ ฉะบับแต่ละฉะบับย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรม์ทั้งนั้นแม้จะได้ทำลายเสียฉะบับหนึ่ง ฉะบับที่ยังอยู่ก็ต้องนับว่าเป็นพินัยกรรม์อยู่นั่นเอง การที่ผู้ตายสั่งให้ทำลายเสียด้วยวาจาไม่เป็นผลลบล้างพินัยกรรมฉะบับที่เหลืออยู่ ฉะนั้นการทำลายพินัยกรรม์ภายหลังผู้ทำถึงแก่ความตายหาเป็นผลไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ที่รายพิพาทตกเป็นของโจทก์ตามพินัยกรรม์นั้นชอบแล้ว ยืนตาม