คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12619/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้รับจำนองจะไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการบังคับคดี แต่ผู้รับจำนองเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนโจทก์หรือเจ้าหนี้รายอื่น ผู้รับจำนองจึงเป็นบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 292 (3) ดังนั้นแม้โจทก์จะยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีของดการบังคับคดีโดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากจำเลยที่ 2 แล้ว แต่เมื่อผู้รับจำนองยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ไม่ยินยอมให้งดการบังคับคดี การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 ต่อไปโดยไม่งดการบังคับคดีตามคำแถลงของโจทก์ จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 2,883,389.27 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19.75 ต่อปี จากต้นเงิน 2,854,047.33 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16 กรกฎาคม 2541) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 91893 ตำบลลาดพร้าว อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์จนครบ จำเลยทั้งสองมิได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอหมายบังคับคดีโดยนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 10078, 11132, 11133, 11134, 11135 และ 11136 ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา มีผู้ประมูลซื้อได้ในราคา 11,570,000 บาท
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าว
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ผู้รับจำนองยื่นคำคัดค้านว่า ราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดเท่ากับการขายครั้งก่อนมิได้ต่ำเกินสมควร ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดโต้แย้งในชั้นฎีกาว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2551 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 10078, 11132, 11133, 11134, 11135, และ 11136 ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ของจำเลยที่ 2 ซึ่งจำนองไว้แก่ผู้รับจำนอง ให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคา 11,570,000 บาท โดยก่อนขายทอดตลาดโจทก์ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้งดการขายทอดตลาด แต่ผู้รับจำนองยื่นคำร้องคัดค้านการขอให้งดการขายทอดตลาดของโจทก์ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่งดการขายและนำที่ดินของจำเลยออกขายทอดตลาดตามกำหนดขายเดิมที่ประกาศไว้ คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่า การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่งดการขายทอดตลาดเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจำเลยที่ 2 ฎีกาว่า โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ดำเนินการบังคับคดี ส่วนเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นตัวแทนโจทก์ต้องกระทำตามความประสงค์ของโจทก์ เมื่อโจทก์ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้งดการบังคับคดีและได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากจำเลยที่ 2 แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(3) สำหรับผู้รับจำนองเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ ย่อมมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนโจทก์หรือเจ้าหนี้รายอื่นอยู่แล้ว ทั้งการงดการบังคับคดีก็ไม่กระทบสิทธิของผู้รับจำนองจึงไม่ถือว่าผู้รับจำนองเป็นบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่งดการบังคับคดีตามคำแถลงของดการบังคับคดีของโจทก์ โดยอ้างว่าผู้รับจำนองไม่ยินยอม จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 (3) บัญญัติว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการบังคับคดีไว้ถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้แจ้งเป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าตนตกลงงดการบังคับคดีไว้ชั่วระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือภายในเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งโดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบุคคล ภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี คดีนี้แม้ผู้รับจำนองจะไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการบังคับคดี แต่ผู้รับจำนองเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนโจทก์หรือเจ้าหนี้รายอื่น ผู้รับจำนองจึงเป็นบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว ดังนั้น แม้โจทก์จะยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีของดการบังคับคดีโดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากจำเลยที่ 2 แล้วแต่เมื่อผู้รับจำนองยื่นคำร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยินยอมให้งดการบังคับคดีการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 ต่อไปโดยไม่งดการบังคับคดีตามคำแถลงของโจทก์จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายแล้วที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share