แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอบังคับจำเลยในฐานะทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้ตายให้จัดการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวออกไปจากห้องและให้โอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินกองมรดกของผู้ตายที่ผู้ตายได้ทำสัญญาจะซื้อขายให้ไว้แก่โจทก์ สิทธิเรียกร้องของโจทก์อันมีต่อเจ้ามรดกจึงตกอยู่ภายในบังคับของอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1754 วรรคสาม โจทก์ต้องฟ้องคดีภายในกำหนด 1 ปีนับแต่เมื่อโจทก์ได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายแพทย์เฉลิมได้ทำสัญญาขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์โดยชำระราคาเป็นงวด ๆ สัญญากำหนดไว้ว่าการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวออกไปจากห้องเป็นหน้าที่ของผู้ขาย โจทก์จะเริ่มจ่ายเงินงวดที่หนึ่งต่อเมื่อผู้ที่อยู่อาศัยได้ขนย้ายออกไปแล้ว ต่อมาโจทก์ทราบว่านายแพทย์เฉลิมถึงแก่ความตาย โจทก์เร่งรัดให้ทายาทปฏิบัติตามสัญญาแต่ก็ได้พากันเพิกเฉย จึงขอบังคับให้จำเลยร่วมกันปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งสัญญาซื้อขาย โดยจัดการให้ผู้อยู่อาศัยในห้องแถวออกไปจากห้อง และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่โจทก์
จำเลยและจำเลยร่วมให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องคดีตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกเกินกำหนดระยะเวลา ๑ ปีนับแต่โจทก์ได้ทราบถึงความตายของเจ้ามรดก คดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทที่นายแพทย์เฉลิมผู้ตายทำไว้แก่โจทก์ตามเอกสารหมาย จ.๑ นายแพทย์เฉลิมผู้ขายมีทั้งสิทธิและหน้าที่ กล่าวคือ มีสิทธิได้รับชำระค่าที่ดินที่เหลือจากการวางมัดจำจากโจทก์เป็นจำนวนเงิน ๒,๒๓๒,๔๐๐บาท กับมีหน้าที่ต้องจัดการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวไม้ทั้ง ๒๔ ห้องออกไปจากห้องแถวไม้ดังกล่าวภายในกำหนด ๖ เดือน นับตั้งแต่วันลงชื่อในสัญญาคือวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๑๘ หรืออย่างช้าภายในกำหนดการจ่ายเงินงวดที่หนึ่งคือภายในเดือนตุลาคม ๒๕๑๘ ทั้งนี้ตามข้อ ๔ และข้อ ๒ ของสัญญาข้างต้น ส่วนการขยายระยะเวลาออกไปต้องเป็นกรณีมีความจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผู้ขายไม่สามารถจะให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวไม้ดังกล่าวออกไปได้ภายในกำหนดตามที่ระบุไว้ ซึ่งโจทก์ก็ตระหนักดีในข้อนี้ดังจะเห็นได้จากหนังสือบอกกล่าวทวงถามและคำขออายัดของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.๔หรือ จ.๖ และ จ.๑๐ สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะบังคับผู้ขายให้ปฏิบัติตามสัญญาที่ว่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันทำสัญญา เมื่อนายแพทย์เฉลิมถึงแก่ความตาย สิทธิและหน้าที่ของนายแพทย์เฉลิมตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินรายนี้จึงตกเป็นกองมรดกของนายแพทย์เฉลิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๐๐ โจทก์ฟ้องขอบังคับจำเลยทั้งแปดและจำเลยร่วมในฐานะทายาทและผู้จัดการมรดกของนายแพทย์เฉลิมผู้ตายให้จัดการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวไม้ ๒๔ ห้องออกไปจากห้องทั้งหมดและให้โอนขายที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินกองมรดกของนายแพทย์เฉลิมที่นายแพทย์เฉลิมได้ทำสัญญาจะซื้อขายให้ไว้แก่โจทก์ สิทธิเรียกร้องของโจทก์อันมีต่อนายแพทย์เฉลิมเจ้ามรดกจึงตกอยู่ภายใต้บังคับของอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๕๔ วรรคสาม โดยโจทก์ต้องฟ้องคดีดังกล่าวภายในกำหนด ๑ ปีนับแต่เมื่อโจทก์ได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
พิพากษายืน