คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าหน้าที่ของศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาคำฟ้องและหมายเรียกให้จำเลยยื่นคำให้การให้แก่ภริยาจำเลยซึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกันกับจำเลยทั้งได้ปิดหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบที่บ้านหลังดังกล่าวโดยชอบถือได้ว่าจำเลยได้ทราบคำฟ้องกำหนดเวลายื่นคำให้การและวันเวลานัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้วเมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำให้การในกำหนดและมิได้ไปศาลชั้นต้นตามวันเวลานัดสืบพยานโจทก์โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องจำเลยก็ตกเป็นผู้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและ จงใจขาดนัดพิจารณา ไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้ข้ออ้างของจำเลยที่ว่าขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยได้ออกจากภูมิลำเนานำวัวไปเลี้ยงยังต่างท้องที่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะรับฟังว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง และ แก้ไข คำฟ้อง ว่า เมื่อ วันที่ 1 เมษายน 2535 จำเลยทำ หนังสือ ยินยอม รับสภาพหนี้ ให้ โจทก์ เป็น ค่าซื้อ ขาย วัว เป็น เงินจำนวน 80,000 บาท โดย ตกลง จะ ชำระ ให้ เสร็จสิ้น ภายใน วันที่ 1 กรกฎาคม2535 และ ยอม ให้ คิด ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปี นับแต่ วัน ทำ สัญญาจนกว่า จะ ชำระหนี้ เสร็จ แต่ จำเลย ผิดนัด ไม่ยอม ชำระ เงินต้น และ ดอกเบี้ยให้ แก่ โจทก์ ดอกเบี้ย คิด ถึง วันฟ้อง เป็น เงิน 10,000 บาท รวมเป็น เงินที่ จำเลย ต้อง ชำระ แก่ โจทก์ จำนวน 90,000 บาท ขอให้ บังคับ จำเลย ให้ ชำระเงิน จำนวน 90,000 บาท แก่ โจทก์ พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ15 ต่อ ปี ใน ต้นเงิน 80,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ
จำเลย ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย ชำระ เงิน จำนวน 80,000บาท แก่ โจทก์ พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปี นับแต่ วันที่ทำ หนังสือ รับสภาพหนี้ คือ วันที่ 1 เมษายน 2535 จนกว่า ชำระ เสร็จดอกเบี้ย คิด ถึง วันฟ้อง (วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2536) จะ ต้อง ไม่เกิน10,000 บาท
จำเลย ยื่น คำร้องขอ ให้ พิจารณา ใหม่
ศาลชั้นต้น พิจารณา คำร้อง แล้ว เห็นว่า จำเลย จงใจ ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ จงใจ ขาดนัดพิจารณา จึง มี คำสั่ง ให้ยก คำร้อง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ที่ จำเลย ฎีกา ข้อกฎหมาย ว่า จำเลย มิได้จงใจ ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ มิได้ จงใจ ขาดนัดพิจารณา เพราะ ขณะที่โจทก์ ยื่นฟ้อง จำเลย มิได้ อยู่ ที่ บ้าน เลขที่ 11/1 หมู่ ที่ 4 ตำบล วังประจบ อำเภอเมืองตาก จังหวัด ตาก ซึ่ง เป็น ที่อยู่ ตาม ฟ้อง ของ โจทก์ แต่ จำเลย ไป เลี้ยง วัว อยู่ ใน ป่า เขต พื้นที่ อำเภอ พรานกระต่าย จังหวัด กำแพงเพชร ตั้งแต่ ต้น ปี 2535 จน ถึง วันที่ 22 สิงหาคม 2536 จำเลย จึง ไม่ได้ รับ สำเนา คำฟ้อง และ หมายเรียกให้ จำเลย ยื่นคำให้การ แก้ คดี กับ ไม่ได้ รับ หมายนัด สืบพยานโจทก์ที่ เจ้าหน้าที่ ของ ศาล นำ ไป ส่ง ให้ แก่ ภริยา ของ จำเลย และ นำ ไป ปิด ไว้ ที่บ้าน ของ จำเลย นั้น เห็นว่า จำเลย กล่าว ใน ฎีกา ยอมรับ ว่า บ้าน เลขที่11/1 หมู่ ที่ 4 ตำบล วังประจบ อำเภอเมืองตาก จังหวัด ตาก เป็น ภูมิลำเนา ของ จำเลย จำเลย ไม่ได้ ปฏิเสธ หรือ ต่อสู้ ว่า เจ้าหน้าที่ของ ศาลชั้นต้น ส่ง สำเนา คำฟ้อง หมายเรียก ให้ จำเลย ยื่นคำให้การและ หมายนัด สืบพยานโจทก์ ให้ จำเลย ไม่ชอบ อย่างไร เมื่อ ข้อเท็จจริงตาม ที่ จำเลย ยอมรับ ฟัง ยุติ ได้ว่า เจ้าหน้าที่ ของ ศาลชั้นต้น ได้ จัดการส่ง สำเนา คำฟ้อง และ หมายเรียก ให้ จำเลย ยื่นคำให้การ ให้ แก่ ภริยาจำเลย ซึ่ง อยู่ บ้าน หลัง เดียว กัน กับ จำเลย ทั้ง เจ้าหน้าที่ ของศาลชั้นต้น ได้ ปิด หมายนัด สืบพยานโจทก์ ให้ จำเลย ทราบ ที่ บ้าน หลังดังกล่าว ซึ่ง เป็น ภูมิลำเนา ของ จำเลย โดยชอบ แล้ว โดย ผล ของ กฎหมาย ถือได้ว่า จำเลย ได้ ทราบ คำฟ้อง ทราบ กำหนด เวลา ยื่นคำให้การ และ ทราบกำหนด วัน เวลา นัด สืบพยานโจทก์ โดยชอบ แล้ว เช่นกัน ดังนั้น เมื่อ จำเลยมิได้ ยื่นคำให้การ ใน กำหนด และ มิได้ ไป ศาลชั้นต้น ตาม วัน เวลาที่ ศาลชั้นต้น นัด สืบพยานโจทก์ โดย ไม่ได้ แจ้งเหตุ ขัดข้อง ให้ศาลชั้นต้น ทราบ จำเลย ก็ ตกเป็น ผู้ จงใจ ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ จงใจขาดนัดพิจารณา จำเลย ไม่อาจ ขอให้ มี การ พิจารณา ใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ได้ ข้ออ้าง ของ จำเลยที่ ว่า ขณะที่ โจทก์ ยื่นฟ้อง จำเลย ได้ ออกจาก ภูมิลำเนา นำ วัว ไป เลี้ยง ยังต่าง ท้องที่ จำเลย ไม่ได้ รับ สำเนา คำฟ้อง ไม่ได้ รับ หมายเรียก ให้ ยื่นคำให้การ และ ไม่ทราบ วันนัด สืบพยานโจทก์ ที่ เจ้าหน้าที่ ของ ศาลชั้นต้นส่ง ไป ให้ แก่ จำเลย ยัง บ้าน ของ จำเลย นั้น ไม่ใช่ ข้ออ้าง ที่ จะ รับฟังว่า จำเลย มิได้ จงใจ ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ มิได้ จงใจ ขาดนัดพิจารณาคำพิพากษา ของ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ต้องด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกาฎีกา ของ จำเลย ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share