คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้งิ้วอันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 ซึ่งไม้งิ้วในท้องที่ที่จำเลยกระทำผิดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 แต่ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกา กำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 และบัญญัติให้ไม้บางชนิดตามที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกา ดังกล่าวมิได้กำหนดให้ไม้งิ้วเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ดังนั้นไม้งิ้วย่อมไม่เป็นไม้หวงห้ามตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีกต่อไป จำเลยจึงเป็นผู้พ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้งิ้วอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 69, 74 ที่แก้ไขแล้ว พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505มาตรา 4 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 3 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้งิ้วอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. อันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 ซึ่งไม้งิ้วในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชรเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 บัญชีที่ 1 อันดับ 34แต่บัดนี้ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกา กำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2531 เป็นต้นไป ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกา ฉบับใหม่นี้ บัญญัติให้ไม้บางชนิดในป่าในท้องที่ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรตามที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มิได้กำหนดให้ไม้งิ้วเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไม้หวงห้ามธรรมดา ดังนั้นไม้งิ้วจึงไม่เป็นไม้หวงห้ามตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีกต่อไป ฉะนั้นการกระทำของจำเลยแม้จะเป็นความผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดดังที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 บัญญัติไว้ฎีกาจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share