แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีแพ่งที่ศาลได้กะประเด็นให้สืบไว้อย่างใดแล้ว คู่ความทั้งสองฝ่ายหาได้โต้แย้งคัดค้านประการใดไม่ จนศาลชั้นต้นตัดสินไปตามประเด็นที่กะไว้แล้ว ในชั้นอุทธรณ์ก็หาได้โต้แย้งว่ายังมีประเด็นข้ออื่นนอกจากที่ศาลกะไว้และศาลไม่ได้ตัดสิน ดังนี้จะฎีกาว่าศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยประเด็นข้ออื่นที่ศาลชั้นต้นมิได้กะไว้อีก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าซื้อนาของจำเลยแล้วขอให้โอนจำเลยไม่ยอมโอน จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยกู้เงินแล้วมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ยภายหลังโจทก์ขอซื้อส่วนหนึ่งของนาพิพาท แต่ต่อมาทายาทผู้รับมฤดกคัดค้านการซื้อขายจึงไม่สำเร็จ เพราะนารายนี้เป็นมฤดกยังไม่ได้แบ่งกัน
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบ ๒ ประการคือ นารายนี้เป็นมฤดกที่ได้แบ่งกันแล้วหรือไม่ อีกประการหนึ่งว่าจำเลยขายให้หรือให้เป็นประกันเงินกู้ แล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่โจทก์ฎีกาอ้างว่าได้ครอบครองนาพิพาทอย่างเจ้าของมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๐ เป็นการอ้างสิทธิครอบครองที่มือเปล่าอีกประการหนึ่งแต่ศาลล่างไม่วินิจฉัยให้นั้น เห็นว่าศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบ ๒ ประการดังกล่าวแล้ว คู่ความทั้งสองฝ่ายหาได้โต้แย้งคัดค้านประการใด ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็มิได้คัดค้าน ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ อนึ่งการที่จะวินิจฉัยว่าได้ครอบครองโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหรือไม่ย่อมอาศัยข้อเท็จจริง ซึ่งคดีนี้ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ จึงรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ให้ยกฎีกาโจทก์
พิพากษายืน