คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289,80,83 เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ศาลก็ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายบุญเจือ ร่วมกันใช้ขวดโซดาและมีดปลายแหลมยาวประมาณหนึ่งฟุตเป็นอาวุธตีและแทงพลตำรวจบุญเลิศผู้เสียหายซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ โดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัส ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 80, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกับนายบุญเจือมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2), 80, 83 จำคุกจำเลยกับนายบุญเจือ

จำเลยและนายบุญเจืออุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยแต่ผู้เดียวฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยกับนายบุญเจือคบคิดกันมาก่อนแม้ในขณะเกิดเหตุก็ไม่ปรากฏพฤติการณ์อันแสดงว่าร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยกระทันหันต่อเนื่องมาจากการวิวาท จำเลยกับนายบุญเจือต่างคนต่างกระทำ จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น ผลของการกระทำของจำเลยได้ความจากผู้เสียหายว่าถึงกับล้มคว่ำหน้าและรู้สึกเจ็บที่ถูกตี ฉะนั้นที่ผู้เสียหายล้มคว่ำน่าจะเป็นเพราะถูกชนเสียหลักหาใช่เกิดจากถูกตีไม่ จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายผู้เสียหายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 80, 83 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยกระทำผิดตามมาตรา 391 ศาลก็มีอำนาจลงโทษได้

พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ให้ลงโทษจำคุก

Share