แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คู่ความในชั้นบังคับคดีคือโจทก์จำเลยและผู้ร้องต. เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาในคดีและอุทธรณ์ฎีกาในคดีนี้ได้ สิทธิของ ต. มีอยู่อย่างไรควรไปว่ากล่าวกันในคดีที่ ต. เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยแม้ ศาลล่างรับวินิจฉัยให้ ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด อ้างว่าได้สิทธิตามสัญญาเช่าซื้อซึ่งจำเลยจัดสรรที่ดินดังกล่าวแก่บุคคลทั่วไป
วันนัดพร้อม ผู้ร้องแถลงว่าจำเลยโอนที่ดินให้ผู้ร้องแล้ว คงมีปัญหาเฉพาะของนายเต็มซึ่งได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 154/2524ต่อศาลเดียวกันอีกคดีหนึ่งและเกิดปัญหาในคดีนั้นว่า จำเลยมีสิทธิรื้อแท็งก์น้ำที่สร้างอยู่บนที่ดินเนื้อที่ 11 ตารางวา ซึ่งจำเลยจะต้องโอนให้นายเต็มตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาในคดีดังกล่าวหรือไม่ ต่อมาในคดีนั้นศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยรื้อแท็งก์น้ำไปได้ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องในคดีนี้ขอให้เพิกถอนคำสั่งอนุญาตนั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยมีสิทธิรื้อแท็งก์น้ำได้
นายเต็มอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายเต็มฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คู่ความในคดีนี้ก็คือโจทก์จำเลยและผู้ร้องเท่านั้นส่วนนายเต็มเป็นบุคคลภายนอกคดีนี้ จึงไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาในคดีและอุทธรณ์ฎีกาในคดีนี้ได้ สิทธิของนายเต็มจะมีอยู่อย่างไรก็ควรจะไปว่ากล่าวกันในคดีที่นายเต็มเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามคดีหมายเลขแดงที่ 154/2523 ของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ศาลชั้นต้นยอมรับวินิจฉัยเกี่ยวกับนายเต็มและศาลอุทธรณ์พิพากษาตามอุทธรณ์ของนายเต็มให้นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองที่เกี่ยวกับนายเต็ม และยกฎีกานายเต็ม