แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 80, 83 เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้เสียหายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ศาลก็ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายบุญเจือ ร่วมกันใช้ขวดโซดาและมีดปลายแหลมยาวประมาณหนึ่งฟุตเป็นอาวุธตีและแทงพลตำรวจบุญเลิศผู้เสียหายซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่โดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัส ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๐, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกับนายบุญเจือมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๒), ๘๐, ๘๓ จำคุกจำเลยกับนายบุญเจือ
จำเลยและนายบุญเจืออุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยแต่ผู้เดียวฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยกับนายบุญเจือคบคิดกันมาก่อน แม้ในขณะเกิดเหตุก็ไม่ปรากฏพฤติการณ์อันแสดงว่าร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยกระทันหันต่อเนื่องมาจากการวิวาท จำเลยกับนายบุญเจือต่างคนต่างกระทำ จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น ผลของการกระทำของจำเลยได้ความจากผู้เสียหายว่าถึงกับล้มคว่ำหน้าและรู้สึกเจ็บที่ถูกตี ฉะนั้นที่ผู้เสียหายล้มคว่ำน่าจะเป็นเพราะถูกชนเสียหลักหาใช่เกิดจากถูกตีไม่ จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายผู้เสียหายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๐, ๘๓ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยกระทำผิดตามมาตรา ๓๙๑ ศาลก็มีอำนาจลงโทษได้
พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑ ให้ลงโทษจำคุก