แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า จำเลยยอมให้เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะปิดเปิดทำนบในเมื่อต้องการหรือไม่ต้องการน้ำ ต่อมาโจทก์เปิดทำนบ จำเลยไปปิดทำให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยจะสู้ว่าโจทก์ไม่เปิดทำนบเอง โจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า มีผู้ไปปิดกั้นทำนบ ทำให้น้ำท่วมนาโจทก์เสียหายโจทก์ได้ฟ้องศาลขอให้ใช้ค่าเสียหายและให้รื้อทำนบที่ปิดกั้นให้อยู่ในสภาพเดิม โจทก์จำเลยในคดีนั้นได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อศาล โดยจำเลยยอมให้โจทก์จัดการเปิดทำนบที่กั้นไว้ การปิดหรือเปิดทำนบ จำเลยยอมให้เป็นหน้าที่ของโจทก์ในเมื่อต้องการหรือไม่ต้องการน้ำ
ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้เรียกประชุมลูกบ้าน และสั่งให้จำเลยที่ 2นำราษฎรไปทำการปิดทำนบรวมทั้งจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 14 ด้วยเป็นเหตุให้น้ำท่วมต้นข้าวโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ร้องขอให้เรียกตัวจำเลยที่ 1 ที่ 2 มาบังคับตามยอม ซึ่งจำเลยรับว่าจะเปิดทำนบ แต่ถึงวันนั้นโจทก์ก็ได้รับความเสียหายแล้ว โจทก์จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้ง 14 คนให้การว่า การเปิดปิดทำนบเป็นหน้าที่ของโจทก์เอง จำเลยไม่ต้องรับผิด โจทก์ไม่ได้เสียหายตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ได้ให้จำเลยที่ 2และ 3 กับราษฎรไปปิดทำนบจริง จำเลยนอกนั้นคดียังไม่พอฟังว่าได้ร่วมไปปิดด้วย แต่โจทก์ยอมให้น้ำท่วมต้นข้าวโดยโจทก์ไม่จัดการเปิดทำนบให้น้ำไหลไปตามสิทธิที่โจทก์มีอยู่ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นขึ้นยิ่งกว่าจำเลย ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1, 2 และ 3 เป็นผู้ปิดทำนบโจทก์ไปเปิด จำเลยก็ปิดเสียอีก พฤติการณ์ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ละเลยหรือเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นเองพิพากษาแก้ให้จำเลยทั้งสามต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 600 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1, 2 และ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์เปิดทำนบ จำเลยไปปิดเสีย การที่จำเลยไปปิดเสียเช่นนั้น ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยเป็นฝ่ายที่ละเมิด ต้องรับผิดต่อโจทก์ แล้วจะว่าโจทก์ได้มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยหาได้ไม่ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 223จำเลยจึงไม่พ้นความรับผิดที่จะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย