คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเอาปืนจี้ผู้เสียหายปืนที่จำเลยใช้จี้นั้นยังไม่ได้ง้างนกปืนขึ้น แม้นิ้วมือของจำเลยจะอยู่ในโกร่งไกปืนสภาพของปืนก็ยังไม่พร้อมที่จะ ยิงได้และมีพฤติการณ์อื่นประกอบแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะยิงเมื่อจำเลยไม่มีเจตนายิงการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนนี้ยิงนายสุชิน จันทรา โดยเจตนาจะฆ่า แต่มีเหตุสุดวิสัยมาขัดขวางเสีย โดยนายสุชินได้ปัดปืนและนายชลอเข้าแย่งปืนไป จำเลยจึงฆ่านายสุชินไม่สำเร็จ

จำเลยรับในเรื่องอาวุธปืน แต่ในข้อหาพยายามฆ่าให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี และปรับในข้อหาอาวุธปืน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมีเรื่องไม่พอใจผู้เสียหายอยู่ก่อนแล้วในวันเกิดเหตุจำเลยเสพสุรามาก่อน เมื่อแลเห็นผู้เสียหายอยู่ในร้านตัดผมจำเลยจึงเข้าไปหาด้วยความมึนเมาและได้ล้วงปืนออกมาจากถุงกระดาษ เป็นปืนลูกซองสั้นทำในประเทศไทย เวลาจะยิงต้องหักลำกล้องเอาลูกปืนใส่ และจะต้องง้างนกมาทางหลังจนสุด เอานิ้วดึงไกปืน นกสับลง ปืนจึงจะลั่น ถ้าใส่ลูกแก้วไม่ง้างนก แม้จะดึงไกปืนนกก็ไม่สับ ปืนก็ไม่ลั่น ขณะจำเลยเอาปืนจี้นายสุชินนั้น จำเลยไม่ได้ง้างนกปืนขึ้น ฉะนั้น แม้นิ้วมือของจำเลยจะอยู่ในโกร่งไกปืนสภาพของปืนเช่นนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะยิงได้ ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าหากจำเลยมีเจตนาจะยิงนายสุชินจริงแล้ว จำเลยก็คงจะง้างนกปืนขึ้น เพื่อพร้อมที่จะยิงได้ทันที และนายสุชินจะไม่มีโอกาสเข้าขัดขวางจำเลยได้ทัน เพราะนายสุชินนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัดผม มีผ้าคลุมเกะกะอยู่รอบตัวพฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่า จำเลยชักปืนออกขู่นายสุชินเพื่อให้กลัวด้วยฤทธิ์เมาของจำเลยเท่านั้น อนึ่ง ตอนที่นายสุชินและนายชลอเข้าแย่งปืนจากจำเลย พยานโจทก์ทั้งสองก็รับว่าจำเลยมิได้ขัดขืนประการใด ปล่อยให้นายชลอเอาปืนไปโดยดี เป็นข้อประกอบให้เห็นเจตนาของจำเลยเด่นชัดขึ้นว่า จำเลยมิได้มีเจตนาจะฆ่านายสุชินแต่อย่างใดที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80 นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share