แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดฐาน ฉ้อโกง และความผิดต่อพ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางานฯ โดย ความผิดตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางานฯ โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันจัดหางานแก่คนงานโดย ทั่วไป จำเลยกับพวกดังกล่าวได้ เรียกและ รับค่าบริการเป็นเงินเป็นค่าตอบแทนการจัดหางาน ทั้งนี้โดยจำเลย กับพวกไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานจากนายทะเบียนตาม กฎหมายแต่ ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ ดำเนินการอย่างไรบ้างในการจัดหางานโดย ไม่ได้รับอนุญาต ทั้งข้อเท็จจริงตาม คำบรรยายฟ้องในความผิดฐาน ฉ้อโกงซึ่ง จำเลยให้การ รับสารภาพก็ฟังได้ว่า จำเลยไม่สามารถและไม่มีเจตนาที่จะจัดส่งโจทก์ร่วมทั้งสามไปทำงานยังประเทศ ซาอุดีอาระเบีย แต่ ประการ ใด แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสาม แต่ ได้ อ้างเอา การจัดหางานมาเป็นวิธีการหลอกลวงเพื่อให้โจทก์ทั้งสามหลงเชื่อยอมให้เงินแก่จำเลยเท่านั้นข้อเท็จจริงจึงไม่พอฟังว่าจำเลยได้ ดำเนินการจัดหางานอันจะเป็นความผิดฐาน จัดหางานโดย ไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 83,91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2511 มาตรา 7, 27, 28 ให้จำเลยคืนหรือชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายแต่ละคนรวม 93,000 บาท
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายทั้งสามยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยให้การรับสารภาพ และได้ชดใช้เงินแก่โจทก์ร่วมทั้งสามแล้วจำนวน 28,000 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 7, 27, 28 เรียงกระทงลงโทษให้จำคุกกระทงละ 4 เดือน รวม 3 กระทง คงจำคุก 12 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 6 เดือน กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินจำนวน 65,000 บาทที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายด้วย
โจทก์ร่วมทั้งสามและจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามฟ้องโจทก์และคำให้การรับสารภาพของจำเลย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยไม่ได้มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสามแต่อย่างใด จำเลยเพียงแต่อ้างการจัดหางานมาเป็นข้อหลอกลวงเพื่อให้ได้เงินค่าบริการจากผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 7, 27, 28 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 ด้วยหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องในความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยกับพวกร่วมกันจัดหางานแก่คนงานโดยทั่วไป โดยจำเลยกับพวกดังกล่าวได้เรียกและรับค่าบริการเป็นเงินเป็นค่าตอบแทนการจัดหางาน ทั้งนี้ โดยจำเลยกับพวกไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานจากนายทะเบียนตามกฎหมายไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ดำเนินการอย่างไรบ้างในการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพก็ฟังได้ว่า จำเลยไม่สามารถและไม่มีเจตนาที่จะจัดส่งโจทก์ร่วมทั้งสามไปทำงานยังประเทศซาอุดีอาระเบียแต่ประการใดแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสาม แต่ได้อ้างเอาการจัดหางานมาเป็นวิธีการหลอกลวงเพื่อให้โจทก์ร่วมทั้งสามหลงเชื่อยอมให้เงินแก่จำเลยเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงไม่พอฟังว่าจำเลยได้ดำเนินการจัดหางานอันจะเป็นความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2511 ดังที่โจทก์ฟ้อง…”
พิพากษายืน.