คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3352/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยมิได้อุทธรณ์จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ ทั้งมิใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจะฎีกาปัญหาเรื่องอายุความอีกไม่ได้ แต่ปัญหาว่าฟ้องโจทก์ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2474 มาตรา 29 หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องอันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย โดยอ้างว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวดีกว่าจำเลยเป็นการฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้ามิใช่การฟ้องเพื่อป้องกันหรือเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าตามมาตรา 29 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
เดิมห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย ซึ่งมีจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้าและสั่งยาแผนปัจจุบันเข้ามาในราชอาณาจักรและได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบันชื่อ HORVIRALM(ฮอร์วีราลเอ็ม)ต่อมาโจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด มี บ. เป็นกรรมการ จำเลยร่วมลงทุนด้วยโดยทำสัญญากับ บ. ตกลงโอนสิทธิบัตรหรือทะเบียนยาที่จดทะเบียนรวมทั้งตำรับยาชื่อ HORVIRALM ให้แก่โจทก์โดยจำเลยได้รับค่าตอบแทนการโอนดังกล่าวแล้ว ข้อตกลงนี้เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก เมื่อต่อมาโจทก์ได้รับโอนกิจการต่าง ๆ ไปจากห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยและดำเนินการต่าง ๆ ตามข้อตกลงอันเป็นการแสดงเจตนาเข้าถือเอาประโยชน์จากสัญญาแล้ว สิทธิของโจทก์ก็เกิดขึ้น โจทก์จึงได้ไปซึ่งสิทธิในเครื่องหมายการค้าตำรับยาชื่อ HORVIRALM และมีสิทธิดีกว่าจำเลย เมื่อจำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียน โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย โดยจำเลยในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้ทำบันทึกข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์ทะเบียนยาและตำรับยาชื่อ HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) และชื่ออื่นๆ รวม43 รายการ ให้แก่บริษัทโจทก์ และให้คำมั่นว่าจะไม่ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย ซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการอยู่ทำการสั่งยาจากต่างประเทศหรือทำการค้ายาแข่งกับบริษัทโจทก์โดยจำเลยได้รับค่าตอบแทนจากบริษัทโจทก์ บริษัทโจทก์จึงเป็นผู้จำหน่ายยาและใช้ชื่อยา HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม)รวมตลอดถึงชื่อยาอื่นๆ ที่รับโอนมาทั้งหมดตลอดมาจนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย และมีสิทธิดีกว่าในการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ต่อมาในปีพ.ศ. 2519 บริษัทโจทก์จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่าHORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ทั้งภาษาโรมันและภาษาไทย ปรากฏว่าจำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ทั้งภาษาโรมันและภาษาไทยสำหรับสินค้าประเภทยาทั้งจำพวกไว้แล้ว ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของจำเลยและห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าที่มีชื่อว่า HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ทั้งภาษาโรมันและภาษาไทยอีกต่อไป
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า บันทึกข้อตกลงเกิดขึ้นโดยไม่สุจริตและเป็นข้อตกลงระหว่างนายบุญเอก วัฒนศิริโรจน์กับจำเลยจึงไม่มีผลผูกพันถึงบริษัทโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก คำว่า เปเตนท์ ในข้อตกลงมิได้หมายถึงเครื่องหมายการค้าหากจะหมายถึงเครื่องหมายการค้าบริษัทโจทก์รับโอนโดยไม่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าต่อกรมทะเบียนการค้าบริษัทโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ข้อตกลงตามฟ้องเป็นข้อห้ามห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยมิให้สั่งยาหรือทำการค้ายาแข่งขันกับบริษัทโจทก์ไม่ผูกพันจำเลยและต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย เลิกกิจการโดยปริยาย จึงไม่มีข้อห้ามหรือข้อผูกพันใดๆ ต่อจำเลยอีกคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จำเลยจดทะเบียนไว้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า เดิมห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย โดยจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ทำการค้ายาต่างๆ หลายรายการ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้าหรือสั่งยาแผนปัจจุบันเข้ามาในราชอาณาจักร และเป็นผู้ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาประเภทยาแผนปัจจุบันหลายชนิดรวมทั้งตำรับยาชื่อ HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) โดยจำเลยคิดค้นตั้งชื่อขึ้นและให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย ใช้ตำรับยาHORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) แต่มิได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ต่อมาวันที่ 22 พฤษภาคม 2515 บริษัทโจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด โดยมีนายบุญเอก วัฒนศิริโรจน์ เป็นกรรมการด้วยคนหนึ่ง วันที่ 17 กรกฎาคม 2515 จำเลยได้ตกลงกับนายบุญเอกในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนตามเอกสารหมาย จ.5 มีข้อสำคัญว่า บริษัทโจทก์ตกลงจ่ายเงินค่ากู๊ดวิลล์ให้แก่จำเลย จำนวน 600,000 บาทและข้อตกลงข้อ 7 ระบุว่าจำเลยรับรองว่าจะนำเปเตนท์หรือทะเบียนยาที่จดทะเบียนไว้แล้วในนามของห้างหุ้นส่วนจำกัดโอนทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นของบริษัทโจทก์และจำเลยให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยทำการสั่งยาจากต่างประเทศหรือทำการค้ายาแข่งขันกับบริษัทโจทก์วันที่ 30 สิงหาคม 2515 ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย ขอโอนกรรมสิทธิ์ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา 43 ชื่อ รวมทั้งตำรับยาชื่อHORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ให้แก่โจทก์และโจทก์ได้จ่ายเงินค่ากู๊ดวิลล์ให้แก่จำเลยจำเลยได้ร่วมลงทุนทำการค้ากับบริษัทโจทก์และเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยหยุดดำเนินกิจการค้าและโอนกิจการทั้งหมดรวมทั้งพนักงานไปรวมกับบริษัทโจทก์ หลังจากนั้นโจทก์ได้สั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรต่อมาไม่นานจำเลยได้ถอนหุ้นลาออกจากบริษัทโจทก์ และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่าHORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) เป็นของจำเลยและปี พ.ศ. 2519 บริษัทโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า HORVIRAL M(ฮอร์วีราล เอ็ม) แต่นายทะเบียนไม่ยอมจดทะเบียนให้ เพราะจำเลยได้จดทะเบียนไว้ก่อนแล้ว
มีปัญหาในชั้นนี้ว่า (1) ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่(2) ฟ้องโจทก์ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29 หรือไม่ และ (3) ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยมีผลทำให้โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่าจำเลยอันจะฟ้องบังคับตามฟ้องได้หรือไม่
พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาข้อแรกนั้นศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ทั้งมิใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยให้ไม่ได้
ส่วนปัญหาข้อที่สองนั้น เป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยให้ ซึ่งในปัญหานี้มาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 บัญญัติว่าเมื่อได้ใช้พระราชบัญญัตินี้ห้าปีแล้ว ท่านว่าผู้ใดจะนำคดีสู่ศาลเพื่อป้องกันหรือเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนนั้นไม่ได้ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย โดยอ้างว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวดีกว่าจำเลย อันเป็นการฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 41 มิใช่การฟ้องเพื่อป้องกันหรือเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้า ตามมาตรา 29 ฟ้องของโจทก์จึงไม่ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว
ส่วนในปัญหาข้อสุดท้ายนั้น เห็นว่าการที่จำเลยลงนามในข้อตกลงเอกสารหมาย จ.5 เพราะหากไม่ลงนามจะไม่ได้อะไรเลยเป็นเรื่องความรู้สึกของจำเลยเอง ส่วนเมื่อได้ร่วมงานกับนายบุญเอก นายบุญเอกจะได้กระทำการที่ไม่เหมาะสมอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ ข้อเท็จจริงต่างๆ ตามที่จำเลยกล่าวอ้างมาไม่มีกฎหมายใดบัญญัติว่าจะทำให้การแสดงเจตนาไม่มีผลหรือกล่าวโดยเฉพาะก็คือยังไม่ถือเป็นกลฉ้อฉลหรือการข่มขู่อันจะทำให้การแสดงเจตนาเสื่อมเสียไปแต่อย่างใดสัญญาระหว่างนายบุญเอกกับจำเลยเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์แก่บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 เมื่อโจทก์ได้รับโอนกิจการต่างๆ จากห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย และดำเนินการต่างๆ ตามข้อตกลงอันเป็นการแสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาแล้วสิทธิของโจทก์จึงเกิดขึ้นแล้วสัญญาเอกสารหมาย จ.5 ข้อ 7 มีว่า เปเตนท์หรือทะเบียนยานายศักดิ์ (ซึ่งหมายถึงจำเลย) รับรองว่าจะนำเปเตนท์หรือทะเบียนยาที่ได้จดทะเบียนไว้ที่กระทรวงสาธารณสุขในนามของห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยโอนทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นของบริษัทนิวมิตรชัยจำกัด (ซึ่งหมายถึงโจทก์) ทั้งหมดทุกทะเบียนในเวลา 2 เดือน นับแต่วันบันทึกข้อตกลงนี้ นอกจากนี้นายศักดิ์ชัย ฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย …… ซึ่งตัวเขาเป็นผู้จัดการอยู่ ทำการสั่งยาจากต่างประเทศหรือทำการค้ายาแข่งขันกับบริษัทนิวมิตรชัยจำกัด โดยเด็ดขาด เว้นแต่การขายปลีกซึ่งทำอยู่ก่อนแล้ว ฯลฯ เช่นนี้ เมื่อข้อความในบันทึกข้อตกลงระหว่างนายบุญเอกกับจำเลยระบุให้โอนเปเตนท์หรือทะเบียนยาที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วแก่โจทก์และตามบัญชีใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา เอกสารหมาย จ.6ซึ่งระบุชื่อและเลขทะเบียนตำรับยาแต่ละชนิด ก็มีชื่อตำรับยา HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) อยู่ด้วย ประกอบกับพฤติการณ์ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยได้โอนทะเบียนตำรับยาแก่โจทก์หยุดดำเนินกิจการของตนเอง พร้อมกับโอนกิจการทั้งหมดรวมทั้งพนักงานไปรวมกับบริษัทโจทก์ โดยให้จำเลยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ และบริษัทโจทก์ยังได้จ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่จำเลยถึง 600,000 บาท และได้ดำเนินกิจการค้ายาดังกล่าวไปแล้ว ข้อความในสัญญาประกอบกับการปฏิบัติต่อกันระหว่างนายบุญเอกกับจำเลย แสดงว่า มีเจตนาโอนรวมถึงเครื่องหมายการค้าชื่อยาคำว่า HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ไปด้วย เครื่องหมายการค้าคำว่า HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ซึ่งจำเลยและห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัยมีและใช้อยู่ แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนก็เป็นสิทธิที่สมบูรณ์ จึงโอนไปยังโจทก์แล้วโจทก์ได้สิทธิไปโดยผลของสัญญาที่จำเลยทำไว้กับนายบุญเอก ส่วนจำเลยไม่มีสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นต่อไปโจทก์จึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า HORVIRAL M (ฮอร์วีราล เอ็ม) ดีกว่าจำเลย จำเลยไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว โ่จทก์จึงมีสิทธิฟ้องร้องขอให้เพิกถอนได้ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าสัญญาข้อ 7 ห้ามเฉพาะห้างหุ้นส่วนจำกัดมิตรชัย มิให้สั่งยาดังกล่าวมาจากต่างประเทศหรือทำการค้ายาดังกล่าวแข่งขันกับโจทก์ มิได้มห้ามจำเลยห้าง ฯ ดังกล่าวก็ได้หยุดดำเนินกิจการไปแล้ว ไม่เกี่ยวกับจำเลย นั้น เห็นว่าโจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญา หากแต่ฟ้องให้แสดงว่าโจทก์มีสิทธิดีกว่าจำเลยเมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวตามที่ได้วินิจฉัยมาแล้วข้อตกลงในสัญญาจะระบุห้ามผู้ใดอย่างไร ก็หาได้ทำให้จำเลยมีสิทธิดีกว่าโจทก์ไม่
พิพากษายืน.

Share