คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะจำเลยที่ 1 ลงไปฉุดผู้เสียหายขึ้นรถ จำเลยที่ 2 จอดรถติดเครื่องรอคอยอยู่ในระยะใกล้ๆ จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายแล้ว จำเลยที่ 2 ได้ออกรถขับไปทันที การกระทำตั้งแต่แรกที่จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายมาขึ้นรถตลอดจนพาผู้เสียหายไปหลังจากผู้เสียหายขึ้นรถแล้ว ยังคงถือว่าเป็นการกระทำผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารอยู่ตลอดเวลา การกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ขับรถพาผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 ไปจึงเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพาผู้เสียหายไป เป็นการร่วมกระทำผิดกันตามมาตรา 83

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่หลบหนีมีปืนเป็นอาวุธได้สมคบร่วมกันฉุดคร่าพานางสาวฉวีวรรณ น้าเจริญ อายุ 20 ปีไปเพื่ออนาจาร โดยจำเลยกับพวกใช้กำลังกายและชักอาวุธปืนออกจ้องขู่บังคับข่มขืนใจนางสาวฉวีวรรณด้วยการฉุดกระชากและผลักดันให้ขึ้นบนรถยนต์นั่งของจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บถึงอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามมาตรา 284, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารตามมาตรา 284, 83 จำคุกจำเลยที่ 1 หนึ่งปีหกเดือน จำเลยที่ 2หนึ่งปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นแต่เพียงผู้สนับสนุนการกระทำผิด มิได้กระทำผิดฐานตัวการ พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ 2 ผิดมาตรา 284, 86 จำคุก 8 เดือน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการร่วมกระทำผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 1 เพราะขณะที่จำเลยที่ 1 ลงไปฉุดผู้เสียหายขึ้นรถ จำเลยที่ 2 จอดรถติดเครื่องรอคอยอยู่ในระยะใกล้ ๆ เมื่อจำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายแล้ว จำเลยที่ 2 ได้ออกรถขับไปทันทีการกระทำตั้งแต่แรกที่จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายมาขึ้นรถตลอดจนพาผู้เสียหายไปหลังจากผู้เสียหายขึ้นรถแล้วยังคงถือว่าเป็นการกระทำผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารอยู่ตลอดเวลา การกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ขับรถพาผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 ไป จึงเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพาผู้เสียหายไป เป็นการร่วมกระทำผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 พิพากษาแก้ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share